โปรโมชันพิเศษจาก นายอินทร์

พลเอกหลินจิ้งเหิงแห่งค่ายไป๋อิ๋นของสมาพันธ์ดวงดาว ดาราจักรที่ 1 สร้างสถานการณ์ว่าตัวเองถูกโจรสลัดอวกาศโจมตีและหายสาบสูญไประหว่างเดินทางกลับดาวเมืองหลวงว็อตโตเพื่อรับการสอบสวน สมาพันธ์ประกาศว่าเขาเสียชีวิตและสดุดีเกียรติ ห้าปีต่อมา หลินจิ้งเหิงพร้อมด้วยปัญญาประดิษฐ์จ้านหลูซึ่งเป็นแกนยานกลแฝงตัวเข้ามาอยู่ที่ดาวเป่ยจิงเบตาของดาราจักรที่ 8 ซึ่งเป็นดาราจักรชายขอบที่สุดของแปดดาราจักรใหญ่ โดยใช้ชื่อหลินซื่อเกอ ผู้นำของกลุ่มหลุมดำ แก๊งมาเฟียใหญ่ของดาราจักร ที่นี่เขาได้รู้จักกับลู่ปี้สิง อัจฉริยะเนิร์ดผู้หลงใหลเทคโนโลยีอวกาศและยานกล ห้าปีก่อนหน้านี้ลู่ปี้สิงเป็นผู้ที่พบเขาหมดสติอยู่ในยานอวกาศนอกชั้นบรรยากาศของดาวเป่ยจิงเบตา และเข้าใจว่าเขาได้รับบาดเจ็บ จึงพาตัวมาดูแลรักษาลู่ปี้สิงมีความฝันที่จะก่อตั้งวิทยาลัยเพื่อสอนนักศึกษาเรื่องกลศาสตร์และยานกล เขาได้รับการสนับสนุนด้านเงินช่วยเหลือจากหลินซื่อเกอ จึงก่อตั้งวิทยาลัยซิงไห่ขึ้นมาได้ ระหว่างที่อยู่บนดาวเป่ยจิง หลินจิ้งเหิง(หลินซื่อเกอ) ยังมีภารกิจสำคัญที่ต้องการสืบหาเงื่อนงำที่เกี่ยวข้องกับการตายของนายพลลู่ซิ่นอาจารย์ของเขาที่ถูกกล่าวหาว่าทรยศสมาพันธ์และเสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อน พร้อมกันนี้เขายังพยายามสืบหาตัวบุคคลผู้หนึ่งซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นลูกของนายพลลู่ ที่อาจรอดชีวิตระหว่างที่มาดามลู่อุ้มท้องหลบหนีการไล่ล่า แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่พบเงื่อนงำ และคาดว่าเด็กในท้องของมาดามลู่น่าจะเสียชีวิตไปพร้อมกับมาดามลู่ในเหตุยานระเบิดจากการไล่ล่าของสมาพันธ์ในครั้งนั้นแล้ว แต่หลินยังคงไม่เลิกหวัง

พลเอกหลินจิ้งเหิงแห่งค่ายไป๋อิ๋นของสมาพันธ์ดวงดาว ดาราจักรที่ 1 สร้างสถานการณ์ว่าตัวเองถูกโจรสลัดอวกาศโจมตีและหายสาบสูญไประหว่างเดินทางกลับดาวเมืองหลวงว็อตโตเพื่อรับการสอบสวน สมาพันธ์ประกาศว่าเขาเสียชีวิตและสดุดีเกียรติห้าปีต่อมา หลินจิ้งเหิงพร้อมด้วยปัญญาประดิษฐ์จ้านหลูซึ่งเป็นแกนยานกลแฝงตัวเข้ามาอยู่ที่ดาวเป่ย จิงเบตาของดาราจักรที่ 8 ซึ่งเป็นดาราจักรชายขอบที่สุดของแปดดาราจักรใหญ่ โดยใช้ชื่อหลินซื่อเกอ ผู้นำของกลุ่มหลุมดำ แก๊งมาเฟียใหญ่ของดาราจักร ที่นี่เขาได้รู้จักกับลู่ปี้สิง อัจฉริยะเนิร์ดผู้หลงใหลเทคโนโลยีอวกาศและยานกล ห้าปีก่อนหน้านี้ลู่ปี้สิงเป็นผู้ที่พบเขาหมดสติอยู่ในยานอวกาศนอกชั้นบรรยากาศของดาวเป่ยจิงเบตา และเข้าใจว่าเขาได้รับบาดเจ็บ จึงพาตัวมาดูแลรักษาลู่ปี้สิงมีความฝันที่จะก่อตั้งวิทยาลัยเพื่อสอนนักศึกษาเรื่องกลศาสตร์และยานกล เขาได้รับการสนับสนุนด้านเงินช่วยเหลือจากหลินซื่อเกอ จึงก่อตั้งวิทยาลัยซิงไห่ขึ้นมาได้ ระหว่างที่อยู่บนดาวเป่ยจิง หลินจิ้งเหิง(หลินซื่อเกอ) ยังมีภารกิจสำคัญที่ต้องการสืบหาเงื่อนงำที่เกี่ยวข้องกับการตายของนายพลลู่ซิ่นอาจารย์ของเขาที่ถูกกล่าวหาว่าทรยศสมาพันธ์และเสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อน พร้อมกันนี้เขายังพยายามสืบหาตัวบุคคลผู้หนึ่งซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นลูกของนายพลลู่ ที่อาจรอดชีวิตระหว่างที่มาดามลู่อุ้มท้องหลบหนีการไล่ล่า แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่พบเงื่อนงำ และคาดว่าเด็กในท้องของมาดามลู่น่าจะเสียชีวิตไปพร้อมกับมาดามลู่ในเหตุยานระเบิดจากการไล่ล่าของสมาพันธ์ในครั้งนั้นแล้ว แต่หลินยังคงไม่เลิกหวัง

ไป๋ฉู่เหนียน เป็นอัลฟ่า่สิงโตขาว ที่ปรึกษากลยุทธ์ระดับสูงประจำสมาพันธ์โอเมก้า (IOA) เขาได้รับภารกิจจากประธานเหยียนอี้ให้ไปช่วยร่างทดลองที่ถูกขังเอาไว้ โดยที่ร่างทดลองนั้นคือ หลานปอ โอเมก้าเผ่าเงือก แฟนเก่าที่เคยใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในสถาบันวิจัน 109 ในอดีต ไป๋ฉู่เหนียนบุกเข้าไปช่วยหลานปอได้สำเร็จ แต่แทนที่เขาจะพาอีกฝ่ายกลับไปสมาพันธ์ เขาฝ่าฝืนคำสั่งพาหลานปอกลับมายังบ้านของตัวเอง ระหว่างทั้งสองคนมีอดีตอันน่าเศร้าและยังเป็นแผลประทับเอาไว้อยู่ทั้งกายและใจของไป๋ฉู่เหนียนซึ่งยังไม่อาจตามหาคำตอบได้ ประจวบเหมาะกับการที่ลู่ซ่างจิ่น คุณอาผู้มีพระคุณของไป๋ฉู่เหนียนโทรเข้ามาขอความช่วยเหลือให้พวกเขาไปช่วยลูกชายของตน ลู่เหยียน สอบวัดระดับ ATWL เขาจึงพาหลานปอไปด้วย แต่ไม่คิดเลยว่า การสอบครั้งนี้จะมีอะไรไม่ชอบมาพากล เพราะทั้งเอกสารต่าง ๆ ที่ต้องตามหา รวมไปถึงตัวยาต่าง ๆ เป็นสิ่งที่สถาบันวิจัน 109 เคยทดลองมาแล้วทั้งสิ้น รวมไปถึงการได้เจอกับร่างทดลองคู่แค้นเก่าที่ทำร้ายไป๋ฉู่เหนียนเกือบตายในตอนนั้น

จากปลายปากกานักเขียนมากฝีมือทั้ง 15 คน ประกอบไปด้วยเมืองแห่งนกกระเรียนราตรี กล่องแห่งลูป ผ้าคลุมหน้าทมิฬ หายนะ ภาพยนตร์ที่สยองที่สุดแห่งปี พวกโง่จะพาเราตายกันหมด เริ่มศึกแดนทมิพ แมวดำที่สำคัญต่อผม หญ้าแม่มดราวกับบุปผา เรื่องสั้นเกี่ยวกับความรัก เพลงที่ในสักวันจะไม่ได้ยินอีก สาวร้านขายฟอลซิลกับเงา ชื่อของนิ้วนิรนาม เหล่าคนลวง พบกันใหม่

ไป๋ฉู่เหนียน เป็นอัลฟ่าสิงโตขาว ที่ปรึกษากลยุทธ์ระดับสูงประจำสมาพันธ์โอเมก้า (IOA) เขาได้รับภารกิจจากประธานเหยียนอี้ให้ไปช่วยร่างทดลองที่ถูกขังเอาไว้ โดยที่ร่างทดลองนั้นคือ หลานปอ โอเมก้าเผ่าเงือก แฟนเก่าที่เคยใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในสถาบันวิจัน 109 ในอดีต ไป๋ฉู่เหนียนบุกเข้าไปช่วยหลานปอได้สำเร็จ แต่แทนที่เขาจะพาอีกฝ่ายกลับไปสมาพันธ์ เขาฝ่าฝืนคำสั่งพาหลานปอกลับมายังบ้านของตัวเอง ระหว่างทั้งสองคนมีอดีตอันน่าเศร้าและยังเป็นแผลประทับเอาไว้อยู่ทั้งกายและใจของไป๋ฉู่เหนียนซึ่งยังไม่อาจตามหาคำตอบได้ ประจวบเหมาะกับการที่ลู่ซ่างจิ่น คุณอาผู้มีพระคุณของไป๋ฉู่เหนียนโทรเข้ามาขอความช่วยเหลือให้พวกเขาไปช่วยลูกชายของตน ลู่เหยียน สอบวัดระดับ ATWL เขาจึงพาหลานปอไปด้วย แต่ไม่คิดเลยว่า การสอบครั้งนี้จะมีอะไรไม่ชอบมาพากล เพราะทั้งเอกสารต่าง ๆ ที่ต้องตามหา รวมไปถึงตัวยาต่าง ๆ เป็นสิ่งที่สถาบันวิจัน 109 เคยทดลองมาแล้วทั้งสิ้น รวมไปถึงการได้เจอกับร่างทดลองคู่แค้นเก่าที่ทำร้ายไป๋ฉู่เหนียนเกือบตายในตอนนั้น

“เหยียนอี้” โอเมก้ากระต่ายหูตก ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นคู่หูร่วมต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่มาด้วยกันกับ “ลู่ซ่างจิ่น” อัลฟ่าเหยี่ยวเพเรกริน ชายผู้ที่ทำพันธะไว้บนต่อมหลังคอเขา พร้อมกับสวมแหวนและกล่าวคำมั่นสัญญาว่า “ฉันจะรักนายไปจนวันตายเลย เหยียนเหนียน” เหยียนอี้คิดว่าทุกวันหลังจากนี้คงจะมีแต่ความสุข ทว่าความรักอันหวานซึ้งกลับจืดจาง เมื่อลู่ซ่างจิ่นออกจากโลกที่ตกอยู่ในภาวะสงคราม เขาก็ไม่ต้องการโอเมก้าที่แข็งแกร่งอย่างเหยียนอี้อีกต่อไป อัตราความเข้ากันได้แค่ 75% ของพวกเขาถูกนำมาใช้เป็นเหตุผลในการขอเลิก เหยียนอี้ถูกบังคับให้ผ่าตัดเอาพันธะออก ไม่หลงเหลือพันธนาการใดๆ ระหว่างเขากับลู่ซ่างจิ่น ถึงจะเลิกกันไปแล้ว แต่เหยียนอี้กลับยังคงต้องการอยู่เคียงข้างลู่ซ่างจิ่น เขาจึงมาทำหน้าที่เป็นพ่อบ้านให้กับชายคนรัก แม้จะต้องเฝ้าดูคนรักนอนกับคนอื่น แต่เหยียนอี้ก็ยังรออย่างมีความหวัง หวังว่าสักวันหนึ่งลู่ซ่างจิ่นจะกลับตัว กลับใจ และกลับมาหากัน…

"เหยียนอี้" ยอมสูญเสียต่อมหายากของตนเอง เพียงเพื่อให้อัตราความเข้ากันได้ของเขากับ "ลู่ซ่างจิ่น" เพิ่มสูงขึ้น โดยหวังว่าถ้าเข้ากันได้มากขึ้น ความรักของเราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่ตอนที่เขาทรมานกับการเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการผ่าตัดเปลี่ยนต่อม ท้องของเขาก็เริ่มนูนขึ้นมา... เหยียนอี้ที่ต้องการเลื่อนการผ่าตัดเปลี่ยนต่อม กับลู่ซ่างจิ่นที่ไม่ต้องการและไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเลื่อน เมื่อเหยียนอี้ไม่สามารถบอกเหตุผลได้ว่าทำไม เพราะเขาไม่รู้ว่าลู่ซ่างจิ่นต้องการเด็กคนนี้รึเปล่า จึงทำให้เกิดการโต้เถียงกัน เหยียนอี้ที่ไม่เคยต่อต้านลู่ซ่างจิ่นเลยสักครั้ง กลับเตะเข้าที่ขาของอัลฟ่าคนนั้น ทำให้ลู่ซ่างจิ่นโมโหจนเลือดขึ้นหน้า ก่อนจะไล่เหยียนอี้ออกจากบ้าน... เหยียนอี้เฝ้ารอให้ลู่ซ่างจิ่นตามเขากลับบ้าน แต่พอลู่ซ่างจิ่นโทรหา คำพูดแรกที่ถามคือจะผ่าตัดเปลี่ยนต่อมไหม ไม่ใช่ขอให้เขากลับบ้าน หัวใจเหยียนอี้แตกสลายไม่มีชิ้นดี เขาคิดจะไปจากลู่ซ่างจิ่น แต่ก็อยากได้ยินลู่ซ่างจิ่นพูดอะไรสักอย่าง เหยียนอี้โทรหาลู่ซ่างจิ่นด้วยใจที่โหยหา คาดหวัง และรอคอย แต่กลับจบด้วยสายที่ไม่มีคนรับ บางทีสวรรค์อาจจะช่วยตัดสินใจแทนเขา...

นายเอก เด็กจากชนบทตามแม่เข้าเมือง รู้สึกสนใจบัลเลต์ แม่จึงให้เรียนดู และได้เจอกับพระเอกที่เรียนมวยอยู่ห้องข้างๆ ได้เป็นเพื่อนกัน คอยช่วยเหลือกัน ทั้งสองทุ่มเทกับความฝันของตน นายเอกซ้อมเต้นเพื่อแสดงในงาน เพราะถ้าเข้าตาปรมาจารย์นักเต้นก็อาจได้เป็นศิษย์

พระเอกไปฝึกมวยที่อเมริกาเพื่อเตรียมตัวเป็นนักมวยมืออาชีพ นายเอกแสดงในงานจนเข้าตาปรมาจารย์นักเต้น ระหว่างนั้นกางเกงนายเอกขาด เพื่อนผู้หญิงสละกระโปรงให้เพราะเธอคิดจะเลิกเต้นบัลเลต์แล้วเนื่องจากต้องตั้งใจเรียนมัธยม พระเอกกลับมาดูงานแสดงของนายเอกทันพอดี จากนั้นพระเอกชวนนายเอกมาดูตัวเองแข่งชกมวย ให้นายเอกอธิษฐานบนนวมก่อนขึ้นแข่ง

‘เซียวอวี่อัน‘ เป็นประธานบริษัทหนุ่มไฟแรงอนาคตไกล แต่สวรรค์กลับไร้เมตตาเขาต้องมาเสียชีวิตก่อนวัยอันควรเพราะโรคร้ายหลังจากลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เขากลับพบว่าตัวเองมาอยู่ในที่ที่ไม่คุ้นเคย กลับกลายเป็นว่าตอนนี้เขามาอยู่ในร่างของฮ่องเต้หนุ่มจอมเสเพลแห่งแคว้นเป่ย เซียวอวี่อันได้ตระหนักว่าตัวเองทะลุมิติเข้ามาในนิยายฮาเร็มที่เพิ่งอ่านจบก่อนตาย แถมยังทะลุมิติเข้ามาเป็นตัวร้ายที่ถูกพระเอกสังหารอย่างอนาถอีก! ด้วยความกลัวว่าตนอาจจะต้องตายเหมือนนิยายต้นฉบับ เขาจึงพยายามเกาะแข้งเกาะขาพระเอกของเรื่อง ‘เยี่ยนเหอชิง’ ให้แน่น โดยการปล่อยตัวอีกฝ่ายออกจากคุกหลวง แต่งตั้งให้มาเป็นคนข้างกาย หากแต่ก็โดนเข้าใจผิดว่าเป็นชายบำเรอคนโปรดที่ฮ่องเต้หนุ่มเอามาปรนิบัติในช่วงนี้่ วังหลวงเป็นถิ่นถ้ำเสือรังมังกร มีผู้คนมากมายในเนื้อเรื่องทั้งทรยศและจงรักภักดี เซียวอวี่อันจำเป็นต้องตระเตรียมแผนการในการใช้ชีวิตของเขาให้ดี และภารกิจสำคัญที่สุดคือการให้พระ - นางของเรื่องได้รักกัน! สาบานด้วยเกียรติของประธานบริษัทจอมเผด็จการ

ด้วยปัญหาที่เกิดขึ้นจากชายบำเรอในวังหลัง เซียวอวี่อันจึงตัดสินใจไล่ชายทุกคนในวังหลังออก เพื่อป้องกันความวุ่นวายที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต และในที่สุดเยี่ยนเหอชิงก็ได้พบกับองค์หญิงหย่งหนิงเสียที! แต่ท่าทางของอีกฝ่ายที่มีต่อนางในฝันกลับผิดคาดเกินกว่าที่เซียวอวี่อันจะจินตนาการ ยังไม่ทันให้ทั้งสองคนในสานสัมพันธุ์กัน แคว้นซีสู่ก็ส่งทูตมาเจรจราการค้า และผู้นำคณะทูตเหล่านั้นคือ เซียวผิงหยาง นางรองประจำเรื่องที่ได้รับตำแหน่งเป็นถึงฮองเฮาของเยี่ยนเหอชิง! นางเอกยังไม่ทันได้พูดกันสักครึ่งคำ ตอนนี้มีเรื่องรักสามเส้าเข้ามาอีก แต่น่าแปลกใจที่เยี่ยนเหอชิงกลับไม่ได้มองพวกนางทั้งสองเลยแม้แต่น้อย ซ้ำยังดูใส่ใจกับเซียวอวี่อันเป็นพิเศษ แม้เจ้าตัวจะไม่รู้เลยก็ตามว่าตัวเองได้เปลี่ยนความรู้สึกลึก ๆ ในใจของพระเอกไปเสียแล้ว

แต่ไหนแต่ไร ทุกคนต่างรู้กันทั่วว่า ‘เลจิส แอดเลย์ โฟลเยน' วีรบุรุษกู้ชาติ เป็นบุรุษหน้าตาหล่อเหลา สุขุมเยือกเย็นและรักสงบ ทว่าช่วงนี้ท่านดยุกโฟลเยนดูจะมีความไม่สบอารมณ์เป็นพิเศษ อาจเป็นเพราะเร็วๆ นี้มักจะมีแมวตัวโตจอมหยิ่งยโสแอบย่องเข้ามาในห้องบุตรสาวของเขาบ่อยๆ ทั้งยังมาเกาะแกะในช่วงที่เขาไม่อยู่! ซ้ำร้ายบุตรสาวยังเปิดตัวว่าคบหากับ...ศิษย์ทรพีของเขา?! ใครๆ ต่างรู้กันทั่วว่าชื่อเสียงของรัชทายาทแม็กซ์มิลเลียนฉาวโฉ่เพียงไร ตัวเขาที่เป็นอาจารย์ย่อมรู้ดีที่สุดจูเวเลียนเป็นดั่งแก้วตาดวงใจที่เขาทะนุถนอมและเป็นเหตุผลเพียงหนึ่งเดียวที่ทำให้เขายังไม่กลายเป็นปีศาจฉะนั้นต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิต... พ่อคนนี้จะไม่ยอมให้ลูกแต่งงานกับคนที่ไม่เหมาะสมเป็นอันขาด!!

เสิ่นเชียนหลิงเริ่มออกเดินทางได้ไม่นานก็ถูกประมุขลัทธิมารชิงตัวไปด้วยเหตุผลบางอย่าง ทำให้ฉินเส้าอวี่และพรรคพวกต้องหาทางชิงตัวเขากลับมา หลังจากช่วยสำเร็จแล้ว ประมุขลัทธิมารก็ยังไม่เลิกรา ตามราวีไม่หยุดจนทำให้เสิ่นเชียนหลิงและฉินเส้าอวี่เกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่โชคดีที่พวกเขาได้พบกับ "เฟิ่งหวงยักษ์" ซึ่งเป็นวิหคศักดิ์สิทธิ์โดยบังเอิญ มันพาพวกเขาไปยังหมู่บ้านชนบทแห่งหนึ่ง อีกทั้งยังพบกับ "เจินเหริน" เทพพยากรณ์ผู้เลื่องชื่อในยุทธภพ แต่นั่นยังไม่พอ เพราะเฟิ่งหวงน้อยที่เพิ่งฟักออกจากไข่กลับโผล่มาถึงหน้าประตูบ้านพักของทั้งคู่ ทำให้พวกเขาต้องเลี้ยงเฟิ่งหวงน้อยไปโดยปริยาย

เมื่อความเปลี่ยนแปลงกลายเป็นเรื่องปกติของการทำงาน เราทุกคนต้องลับทักษะให้คมกริบอยู่เสมอ หนังสือเล่มนี้กล่าวถึง 20 Soft Skills อันสำคัญยิ่งยวดที่จะผลักดันคุณภาrทีม และองค์กรไม่เพลี่ยงพล้ำกับปัญหาในมิติใหม่ทุกระดับ คงจิตวิญญาณแห่งการสร้างสรรค์ และสร้างผลงานในระดับแนวหน้าของวงการอยู่เสมอ โดยคุณรวิศ หาญอุตสาหะ ผู้บริหารและเจ้าของพอดแคสต์ที่มีผู้ติดตามสูงสุดอย่าง "Mission to the Moon"

"ในชีวประวัติของบริตนีย์ สเปียร์สเล่มนี้ เธอแข็งแกร่งกว่าที่เคย" -The New York Timesในเดือนมิถุนายน 2021 ทั่วทั้งโลกติดตามการให้การของบริตนีย์ สเปียร์สในการพิจารณาคดี ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการเอ่ยปากเล่าเรื่องราว บอกเล่าความจริงของเธอสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อสังคม และเปลี่ยนชีวิตของเธอเองและชีวิตของผู้อื่นอีกมากมายนับไม่ถ้วน หนังสือเล่มนี้เปิดเผยเส้นทางชีวิตน่าทึ่งของเธอเป็นครั้งแรก รวมทั้งเล่าถึงจุดแข็งของผู้ที่เป็นหนึ่งในบรรดานักร้องที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เพลงป็อปหนังสือจากปลายปากกาของสเปียร์สเล่มนี้ทั้งตรงไปตรงมาและเปี่ยมด้วยอารมณ์ขัน ภายในเล่ม พลังแห่งดนตรีและความรักเปล่งประกาย รวมถึงความสำคัญของการบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่สามารถเล่าผ่านมุมมองของตัวเองได้เสียที

Pain point ของการทำการตลาดทุกวันนี้มีสองเรื่อง ข้อแรก ทำแผนการตลาดเดียวแบบหว่านแห เป็น Mass Marketing มองทุกคนเหมือนกันหมด แม้จะประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ก็ไม่ค่อยได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง อีกข้อคือ อยากจะรู้ใจลูกค้ารายบุคคล แบบ Personalized Marketing แต่ก็ต้องเสียงบประมาณและเวลามากในกรณีที่มีลูกค้าหลักหมื่นไปจนถึงหลักล้าน คุณณัฐพล ม่วงทำ ที่ปรึกษาและนักการตลาดผู้เชี่ยวชาญเรื่องดาต้าจึงคิดค้นการตลาดแนวใหม่ที่ ผสมผสานระหว่างสองรูปแบบข้างต้น นั่นคือ การตลาดแบบเจาะกลุ่มลูกค้า (Segmentation) โดยใช้ดาต้าลูกค้าที่มี รวมกับระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า หรือ CRMเพื่อจะจัดสรรกลุ่มลูกค้าตามพฤติกรรมที่อีกฝ่ายมีปฏิสัมพันธ์กับธุรกิจเรา และวางแผนการตลาดให้ตอบโจทย์ความต้องการ ยกระดับความสัมพันธ์ จากคนแปลกหน้าเป็นลูกค้า จากลูกค้าเป็นแฟนพันธุ์แท้ หรือแม้แต่คนที่เลิกเป็นลูกค้าไปแล้วก็อยากกลับมาซื้อซ้ำ ในปริมาณมากขึ้น โดยไม่ต้องเปลืองงบการตลาด หรือทุ่มทุนทรัพยากรอื่น

เรื่องราวของครอบครัวสัญชาติอังกฤษ-จีน ที่มีความสามารถในการย้อนเวลากลับไปในอดีต วัน หนึ่งโจชัวและลิลีเดินทางย้อนเวลาไปแล้วไม่กลับมาอีกเลย ทิ้งลูกๆ อย่างทอมมีและอีวาซึ่งยังเป็นเด็กไว้ในยุคปัจจุบัน นิยายเริ่มติดตามการเติบโตของฝาแฝด (ทอมมีและอีวา) ที่ต้องรับมือบาดแผลแห่งความสูญเสีย ซึ่งจะหลอกหลอนทั้งคู่ไป ตลอดชีวิต พร้อมกับเล่าเรื่องราวของโจชัวและลิลลีสมัยที่ทั้งคู่เพิ่งค้นพบพลังในการย้อนเวลา

ในยุคที่ทุกคนล้วนต่างมีโซเชียลมีเดียเป็นของตนเอง ส่งผลให้คนที่มีบุคลิกแบบเอาตัวเองเป็นใหญ่มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ พยายามกดผู้อื่นให้ต่ำกว่า มั่นใจในตัวเองจนแยกแยะถูกผิดไม่ได้ ขาดความเห็นใจผู้อื่น เรียกร้องความสนใจอย่างหนัก และพยายามควบคุมคนรอบข้าง ทั้งหมดนี้คือลักษณะของคนพวกนี้ซึ่งทำให้คนที่อยู่ใกล้รู้สึกเหนื่อย เครียด กดดัน และหมดความมั่นใจ หนังสือเล่มนี้จะแนะนำวิธีจัดการกับคนหลงตัวเองโดยไม่ทำให้ผู้อ่านต้องลำบาก ด้วยโมเดลพฤติกรรม 4 สีที่เรียบง่ายและโด่งดัง เพื่อให้ผู้อ่านได้ใช้ชีวิตได้ โดยไม่ถูกคนกลุ่มนี้พ่นพิษใส่ ทั้งยังบอกวิธีจัดการความหลงตัวเองที่มีอยู่ในตัวเราทุกคนด้วย

"อย่าคิดว่าแมวนั้นจะนอนอยู่บ้านอย่างเงียบๆ เรียบร้อยหรือทำตัวเกียจคร้าน“ เกิดเป็นแมวบ้านนั้นแสนสบาย ก็แค่กินๆนอนๆอยู่บ้าน ไม่เห็นจะต้องทำอะไร แต่ใครเลยจะรู้ว่าแมวอย่างฉัน มีหน้าที่อันยิ่งใหญ่ที่มนุษย์อย่างพวกเธอไม่มีวันได้รู้ เพียงแค่มนุษย์อย่างพวกเธอออกจากบ้านไป ความลับของเหล่าแมวที่ใครๆก็คิดว่า อยู่เหย้าคอยเฝ้าบ้านก็ได้เริ่มต้นขึ้น! กลับมาตอนเย็น เห็นสภาพบ้านแล้วก็อย่าเพิ่งเป็นลมเสียก่อนละมนุษย์

เสิ่นเสากวง เป็นหญิงสาวที่มาจากโลกยุคใหม่ เข้ามาอยู่ในร่างของนางกำนัลในรั้ววังหลวง แต่ชีวิตมีกฎเกณฑ์มากมายแบบนั้นไม่เข้ากับนาง นางหาลู่ทางจนได้ออกจากวังมาใช้ชีวิตของตนเอง นางเริ่มจากการไปอาศัยอยู่ในวัดร่วมกับแม่ชี และออกไปเปิดแผงอาหารเล็กๆ เพื่อหารายได้จุนเจือตัวเอง แต่แล้วด้วยหัวคิดสมัยใหม่ทำให้นางค่อยๆ พัฒนาอาหารและรูปแบบร้านจนเป็นที่เลื่องลือไปทั่วฉางอัน รองเจ้าเมืองจิงจ้าวผู้หล่อเหลาและช่างเลือกกินเองก็ไม่เว้น แต่รองเจ้าเมืองผู้แสนพูดน้อยคนนี้ จะมัดใจสตรีหัวการค้าและร่าเริงคนนี้ไว้ได้อย่างไรกัน...