สงครามทำลายล้างทุกสิ่ง หากบางอย่างกำเนิดขึ้นกลางสมรภูมิ ไม่มีสงครามไม่มีผู้ชนะ ไม่มีสงคราม ไม่มีผู้ยิ่งใหญ่ แต่เดชานุภาพมิได้ปรากฏเพียงหนึ่งหากเป็นสอง หนึ่งอิสตรีครอบครอง และสองต้องเป็นยอดแห่งนักรบ

บาดแผลของเขาน่ารังเกียจ เจ็บปวดทุกครั้ง เมื่อมีผู้มาต้องสัมผัส เขา ทนรับสภาพที่แสนทรมานนี้ เพียงเพื่อ หนึ่งนาง ที่เขาทั้งรัก ทั้งเทิดทูน เลือด ต้องชดใช้ด้วย เกราะเลือด เลือด“เกราะกาลจักร”

ทองเนื้อเก้า เนื้อทองเนื้อแท้ที่พลัดพรากจากนคราไปเพื่อเกื้อหนุนใครคนหนึ่งในฟากฟ้าป่าหิมพานต์ บุญและกรรมนำไป พบขวัญใจในห้วงแห่งความฝัน ตื่นพลันตะวันเรื่อพาเหยี่ยวรุ้งพุ่งโฉบขวับรับร่างไปในเวียงทิฆัมพร

ม้าเงิน และ ม้าทองสัญลักษณ์แห่งวงแหวนคู่ กลับมายังโลกมนุษย์อีกครั้งการต่อสู้ครั้งใหม่กำลังจะเปิดฉากขึ้น ความแค้นของวายุเทพไม่เคยจางหาย ฝังรากลึกลงไปในจิตใจทุกขณะ เทพบุตร และ เทพธิดาจำเป็นต้องลงมาจุติอีกครั้งพร้อมธำมรงค์ทรงเดช "แหวนยุคล"

อิทธิฤทธิ์แห่งจตุรธาตุ ธาตุทั้งสี่ ก่อเกิดอะไรขึ้นบ้าง ความแค้น เกิดขึ้นเพราะความโลภ หน้าที่กาย กับ หน้าที่ใจ ไม่มีใครเลือกได้ หากแต่ ดิน น้ำ ลม ไฟ เดือดพล่านขึ้นพร้อมกันจะเกิดอะไรขึ้น (สี่ยอดกุมาร)

ดวงแก้วจากสรวงสวรรค์ ก่อเกิดเป็นชีวิต 8 ชีวิตเกราะแก้วที่ทรงอำนาจ 9 ชิ้นกำเนิดขึ้นและเกิดการแย่งชิงต่างๆการต่อสู้ที่เริ่มขึ้นพร้อมชีวิตของพวกเค้า จะจบไปพร้อมกับชีวิตพวกเขาหรือไม่(เกราะกายสิทธิ์)

การผจญภัย สู่หน้าที่ของเทพที่ต้องลงมาจุติ ความอิจฉาริษยา ความเศร้าโศกและรสชาติของน้ำตา การต่อสู้พิคาตฟาดฟัน กับอำนาจอิทธิฤทธิ์ นครอนแสนมืดมิด มีเพียงแสงจันทรา นครอันสว่างไสวเจิดจ้าด้วยแสงสุริยะตะวัน

แหวนธรรมดาที่ไม่ธรรมดาใครๆในโลกนี้ต่างหมายปอง ก่อให้เกิดความวุ่นวายมากมายตามมา (เป็นเรื่องแบบละครพื้นบ้านนะจ๊ะ แต่ไม่ค่อยมีราชาศัพท์ คล้ายๆกับเกราะกายสิทธิ์นั่นแหละ)