แค่วันไนต์สแตนด์จะคิดอะไรมาก ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้ โดยปกติมีความสัมพันธ์กับใครก็แค่ครั้งเดียวอยู่แล้วไม่ใช่เหรอวะ ผมได้แต่ก่นด่าตัวเองในใจ “ได้ฉันแล้วคิดจะหนีกันไปดื้อๆ แบบนี้เหรอเบลล์"

“คิดว่าหล่อมากรึไง ถึงได้เสนอเงินให้ฉันไปนั่งกินข้าวด้วย เฮอะ... เงินแค่นี้ซื้อฉันไม่ได้หรอกนะ” “แล้วต้องมีเงินมากขนาดไหนถึงจะซื้อเธอได้...สุดท้ายเธอมันก็หน้าเงินเหมือนที่คนอื่นเขาบอกไว้"

คนอย่างคณิณ คีตะ มีความรักกับเขาเป็นด้วยหรือ...เอาล่ะผมจะเดินหน้าจีบเธออย่างเต็มที่ จีบโดยที่ไม่ให้เพื่อนรู้เพราะเด็กวิศวะไม่ถูกกับเด็กบริหาร มันมีเรื่องราวและตำนานส่งต่อกันมาหลายปีถ้าจะจีบคงต้องแอบคบ

คุณเคยได้ยินเรื่องศาสตร์แห่งกลิ่นหรือไม่ กลิ่นที่มาจากธรรมชาติ กลิ่นที่มนุษย์เติมแต่งขึ้นมาหรือจะเป็น กลิ่นที่เธอไม่สามารถหนีพ้นจากมันได้ นั่นก็คือกลิ่นสัมผัสที่หก...เป็นกลิ่นที่เธอไม่เคยต้องการ

การอกหักในครั้งนี้ทำให้ฉันเสียศูนย์ไปมาก...ความดีของเพื่อนรักอย่างลูคัสทำให้มองเขาเปลี่ยนไปจากที่ไม่ได้คิดอะไรกลับกลายเป็นแอบชอบเขา จึงได้วางแผนล่าใจสุดท้ายแผนแตกจากเพื่อนรักกลายเป็นเพื่อนร้าย

“พวกนายว่างกันหรือยังไง มานั่งร้องเพลงแหกปากกันอ่า” “ก็ไม่ว่าง แต่อยากร้องเพลงมีอะไรมั้ย” “ต้องการอะไร”“ชัดเจนดีนิ สิ่งที่ต้องการมีอยู่ในใจแล้ว แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้”จุดเริ่มต้นของการแตกหักของทั้งสองคณะ

“เลิกทำตัวหยิ่งยโสใส่คนอื่นสักทีคิดว่าตัวเองเป็นใครฮะ” “และนายคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน ถึงกล้าดีมายืนชี้หน้าด่าฉัน” “ก็เพราะเธอไม่ใช่เหรอ” “ฉันทำไม?...ฉันไปทำอะไรให้นายโกรธเกลียดขนาดนั้นเหรอฌอน"