
เเค้นร้ายมาเฟียเถื่ิอน

คฤหาสน์ของอีธาน เมื่อรถหรูได้เคลื่อนตัวมาจอดที่หน้าบ้านของอีธานเรียบร้อยแล้ว อีธานเองก็ไม่รอช้าที่จะกระชากคนตัวเล็กอย่างมินตราให้ลงมาจากรถอย่างแรง จนมินตราถึงกับเซไปชนเข้ากับแผงอกของอีธานตามแรงกระชาก “อ้ะ!! ไม่เอาไม่เข้าไปนะ ปล่อยเราไปเถอะนะ” “หุบปาก!! และเดินตามกูมาดีๆ!!” “ไม่เอาไม่ไป!!” “มึงแม่งโคตรท้าทายกูเลยรู้ไหม” มินตราที่ตอนนี้ทั้งพยายามดิ้นและขัดขืนอีธานเพราะไม่อยากจะเข้าไปในบ้านนั้น ก่อนที่จะพยายามแกะมือหนาให้ออกจากข้อมือเล็กของตัวเอง จนอีธานที่เห็นแบบนั้นก็เริ่มเหลืออดกับคนตัวเล็กที่อยู่ตรงหน้า จนต้องกระชากคนตัวเล็กเข้าหาตัวพร้อมกับอุ้มคนตัวเล็กนั้นพาดบ่าแล้วเดินเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว “ปล่อยเรานะ!! ปล่อยเราสิ!!” ภายในคฤหาสน์ “มิน!! ช่วยแพรด้วย!!” “แพร!!” มินตราที่ถูกอุ้มเข้ามาในบ้านก็ต้องตกใจเมื่อเห็นเพื่อนรักของตัวเองอย่างแพรไหมกำลังโดนใครบางคนอุ้มพาดบ่าแบบนี้เหมือนกัน “ปล่อยเพื่อนเรานะ!! แพรไหมเป็นไรไหม” “ไม่ แพรไม่เป็นไร แล้วมินล่ะเป็นไรไหม” “ไม่ มินไม่เป็นไร” ทั้งคู่ที่ตอนนี้ถามกันออกไปด้วยความเป็นห่วง ในขนาดที่ทั้งสองคนก็ยังโดนอุ้มพาดบ่าอยู่แบบนั้น “นายครับ ประวัติของสองคนนี้ได้แล้วครับ” คูเปอร์ที่เดินตามอีธานผู้เป็นนายของตัวเองเข้ามาติดๆ ก่อนที่จะยื่นใบกระดาษให้กับอีธานและอาร์เทอร์คนละหนึ่งใบ ซึ่งใบกระดาษนั้นก็คือประวัติของมินตราและแพรไหมนั่นเอง “กูไปก่อนนะ ดูท่าคงต้องชักประวัติอีกนานเลย” “หึ” อาร์เทอร์พูดขึ้นพร้อมกับยกยิ้มมุมขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่จะพาร่างบางอย่างแพรไหมขึ้นห้องไป โดยมีเสียงห้ามปรามและร้องโวยวายจากคนที่อยู่บนบ่าแกร่งของเขาตลอดเวลา จนอีธานที่เห็นแบบนั้นก็ถึงกับยกยิ้มออกมาพร้อมกับหัวเราะอยู่ในลำคอเบาๆ “ปล่อยเรานะ!! มินช่วยแพรด้วย!!” “จะพาเพื่อนเราไปไหน!! ปล่อยเพื่อนเรานะ!!” มินตราที่เห็นว่าอาร์เทอร์พาเพื่อนรักของตัวเองเดินขึ้นห้องไปแล้ว คนตัวเล็กก็พยายามดิ้นบ่นแกร่งของอีธานอย่างแรง เพื่อที่จะลงไปช่วยเพื่อนของตัวเองให้ได้ “มึงหยุดดิ้นดิ๊วะ!! แม่ง!! ดิ้นเก่งฉิบหาย” “นายก็ปล่อยเราลงสิ!” มินตราที่ตอนนี้ดิ้นแรงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อที่จะให้อีธานนั้นยอมปล่อยเขาลง ซึ่งมินตรานั้นก็ไม่ได้รู้เลย ว่าการกระทำของตัวเองกำลังสร้างความรำคาญให้กับร่างหนาอย่างอีธานเป็นอย่างมาก “ได้!! อยากให้กูปล่อยมึงมากใช่ไหม” อีธานพูดจบก็จัดการสาวเท้าเดินขึ้นไปบนห้องอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ได้สนใจเสียงของมินตราที่กำลังโวยวายเลยแม้แต่น้อย ด้านไทเลอร์และคูเปอร์ “กูตาฟาดรึเปล่าวะ นายเรากับคุณอาร์เทอร์พาสองคนนั้นเข้าห้องนอนตัวเองหรอวะ” “เออ ตั้งแต่กูอยู่กับนายมา นายไม่เคยพาใครเข้าห้องนอนของตัวเองเลยแม้แต่คนเดียว นายเราหวงห้องตัวเองจะตาย” คูเปอร์และไทเลอร์พูดขึ้น เมื่อเห็นว่าผู้เป็นนายของตัวเองพาคนอื่นซึ่งนั้นก็คือมินตราเข้าไปในห้องนอน ซึ่งพวกเขารู้จักนิสัยผู้เป็นนายของตัวเองเป็นอย่างดี เพราะอีธานน่ะเป็นคนที่ไม่เคยคิดที่จะจริงจังกับความรัก เขาเป็นคนที่เห็นผู้หญิงเป็นแค่ที่ระบายอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายที่ผ่านเข้ามา เขาก็เห็นคนพวกนั้นเป็นแค่ของเล่นบนเตียงเท่านั้น และไม่เคยพาใครเข้ามาในบ้านหรือห้องนอนเลยสักครั้ง “หรือว่าเราจะได้นายหญิงกันวะ” “ไอ้สัส อย่าพึ่งคิดไปไกล มึงก็รู้ว่านายของเราเย็นชาจะตาย รักใครเป็นที่ไหน ไปแยกไปทำงาน” “เออ” พูดจบทั้งไทเลอร์และคูเปอร์ก็แยกกันไปทำหน้าที่ของตัวเองทันที โดยที่ทั้งคู่ไม่ได้สนใจหรือเข้าไปยุ่งเลยว่าอีธานนายของตัวเองจะทำอะไรกับคนคนนั้นบ้าง ซึ่งนั้นก็คือมินตราคนที่ถูกนายของพวกเขานั้นจับมา ซึ่งตอนนี้ก็ถูกอุ้มขึ้นไปบนห้องเรียบร้อยแล้ว ด้านอีธานละมินตรา ตุบ!!! “อ้ะ!! โอ๊ยย!!” อีธานที่ตอนนี้สาวเท้าขึ้นมาบนห้องนอนของตัวเองได้ก็ไม่รอช้าที่จะโยนมินตราลงไปบนเตียงอย่างแรง จนคนตัวเล็กที่โดนกระทำแบบนั้นก็ถึงกับร้องเสียงหลงออกมาด้วยความจุก ก่อนที่มินตราจะรีบดีดตัวขึ้นมาจากที่นอนแล้วกระโดดไปอีกฝั่งของเตียงทันที โดยมีสายตาของอีธานที่ยืนมองมินตราด้วยสายตานิ่งๆอยู่ฝั่งตรงข้าม “หึ ไหนมาดูกันซิ ว่าใครเป็นคนส่งมึงมา” “…..” อีธานพูดจบก็ยกใบประวัติของมินตราขึ้นมาอ่าน ซึ่งอีธานเองก็อ่านออกมาให้มินตราที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเขาได้ยินด้วยเหมือนกัน “ชื่อ มินตรามณี ปุญญธาราสกุล ชื่อเล่น มินตรา ชื่อมึงเหมือนผู้หญิงจังวะ” “…..” อีธานที่อ่านชื่อคนตัวเล็กจบก็ช้อนสายตาขึ้นมามองคนตัวเล็กอย่างมินตราสักพัก ก่อนจะก้มลงไปอ่านใบประวัติต่อ “อายุ22ปี เป็นลูกครึ่งไทยอิตาลี แม่เป็นคนไทยส่วยพ่อเป็นคนอิตาลี มีลูก3คน ถ้าให้กูเดามึงคงเป็นลูกคนสุดท้องใช่ไหม” “…..” “เป็นลูกของ มอร์ริสัน วอลเลอร์ ว้าว~ น้องของไอ้ออสตินหรอเนี่ย :)” “นายรู้จักพี่เราได้ไง” “หึ” “ยะ…อย่าเข้ามานะ” อีธานที่ได้ยินคนตัวเล็กอย่างมินตราถามออกมาแบบนั้นก็ได้ค่อยๆสาวเท้าเดินเข้าไปใกล้ๆคนตัวเล็ก ส่วนคนตัวเล็กที่เห็นแบบนั้นก็ถอยหลังหนีทันที ก่อนจะคว้าหมอนที่อยู่บนเตียงขึ้นมาป้องกันอย่างรวดเร็ว “หึ พี่มึงนี่ก็เก่งเนอะ ส่งคนมาวางระเบิดเรือสินค้าของกู รอบกัดกู2รอบแล้วด้วยสิ แถมยังให้น้องแบบมึงคอยตามมาดูอีก คงคิดสินะว่าจะสำเร็จ” “…..” “แต่เสียใจด้วยนะที่รอบนี้มันทำไม่สำเร็จ แถมยังโง่ส่งน้องมาให้กูจับอีก ลูกน้องก็โดนฆ่าตายพร้อมกับตัดลิ้นทิ้ง หึ พี่มึงนี่โง่จริงๆเลยว่ะ” อีธานที่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาพร้อมกับหัวเราะอยู่ในลำคอเบาๆ จนมินตราที่เห็นแบบนั้นก็ถึงกับทนไม่ได้ที่อีธานทั้งฆ่าคนทิ้งแบบนั้นแถมยังพูดจาเย็นชาออกมาแบบนี้อีก ถึงใจจะกลัวแต่ก็ต้องพูดออกไป เพราะทนฟังคำพูดของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าไม่ไหว “ดูภูมิใจจังเลยนะที่ได้ฆ่าคน กล้ายิ้มได้ยังไง นายต้องเลวมากแค่ไหนถึงได้ฆ่าคนทิ้งเป็นผักเป็นปลาแบบนี้ มีความเป็นคนอยู่บ้างรึเปล่า” “หึ” “อ้ะ!! ปล่อยเรานะ!” อีธานที่ทนฟังคำพูดของคนเล็กตัวเล็กที่ยืนพูดอยู่ตรงหน้าจนจบ ก่อนที่เขาจะรีบสาวเท้าเข้าไปกระชากคนตัวเล็กที่อยู่ตรงหน้าเข้าหาตัวอย่างแรงทันที พร้อมกับมืออีกข้างที่ว่างก็ได้รั้งเอวเล็กเข้ามากอดไว้แน่น “มึงนี่ปากดีจังเลยนะ รู้ไหมว่าไม่เคยมีใครพูดจากับกูแบบนี้มาก่อน มึงคิดว่าตัวเองเป็นใครมีสิทธิ์อะไรมาด่ากู ห๊ะ!!!” “ !!! “ มินตราที่ตอนนี้สะดุ้งจนสุดตัวเมื่อถูกร่างหนาที่อยู่ตรงหน้าตะคอกใส่ ซึ่งอีธานเองในตอนนี้ก็เรียกได้ว่าโกรธจนเลือดขึ้นหน้าเลยก็ว่าได้ เพราะตั้งแต่เขาเกิดมายังไม่เคยมีใครกล้าว่าหรือด่าเขาได้แรงเท่าคนตัวเล็กที่อยู่ตรงหน้าขนาดนี้เลย “และนายล่ะเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรมาจับเราและเพื่อนของเราไว้แบบนี้ แถมยังฆ่าคนทิ้งเป็นผักเป็นปลาอีก” อีธานที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งทำให้เขานั้นโกรธจนกัดฟันกรอด ก่อนจะทำการบีบข้อมือเล็กของมินให้แน่นและแรงขึ้นอีก จนคนตัวเล็กถึงกับต้องนิ่วหน้าเพราะความเจ็บ “มึงกำลังยอกย้อนกูหรอ ห๊ะ!!” “เราไปยอกย้อนอะไรนาย เราแค่พูดตามความจริงตามที่เราเห็น และเราก็ไม่ได้รู้เรื่องเกี่ยวกับระเบิดอะไรนั่นเลย เพราะฉะนั้นนายปล่อยเรากับเพื่อนเราไปเถอะนะ” “หึ มึงคิดว่ากูจะปล่อยมึงไปง่ายๆหรอ มึงคิดผิดแล้ว และถ้ามึงจะแกล้งโง่ทำเป็นไม่รู้เรื่องก็เรื่องของมึง เพราะกูไม่โง่เชื่อมึงแน่นอน” “โอ๊ยย!!” อีธานที่พูดจบก็ได้เหวี่ยงคนตัวเล็กลงไปบนเตียงอย่างแรง พร้อมกับร่างหนาที่ตามไปขึ้นคร่อมคนตัวเล็กเอาไว้ ก่อนที่จะรวบมือเล็กทั้งสองข้างขึ้นไปไว้เหนือหัวด้วยมือข้างเดียว แล้วทำการกดข้อมือเล็กนั้นไว้กับเตียงแน่น ซึ่งคนตัวเล็กที่เห็นแบบนั้นก็ตกใจพร้อมกับพยายามดิ้นอย่างสุดแรงเพื่อที่จะให้ตัวเองหลุดพ้นจากพันธนาการของร่างหนา “จะทำอะไร!! ปล่อยเรานะ!!” “เอาคืนพี่มึงหน่อยเป็นไง ถึงขั้นส่งคนมาวางระเบิดเรือสินค้ากู งั้นกูก็ขอเอาคืนหน่อยแล้วกัน โดยการเอามึงมาเป็นของเล่นบนเตียงกู ให้กูเอาจนกว่าจะพอใจ” “…..” “มึงว่าถ้าพี่มึงรู้พี่มึงจะทำหน้าอย่างไงวะ คงรู้สึกผิดจนตายเลยมั้งที่รู้ว่าน้องตัวเองมาเป็นของเล่นบนเตียงของกู” “เลว!! เลวที่สุดเลย นายยังมีความเป็นคนอยู่รึเปล่า ความคิดสกปรกที่สุดเลย เห็นคนอื่นเป็นของเล่น นายนี่มัน ทุเรศที่สุดเป็นผู้ชายที่เลวที่สุดเลย” คนตัวเล็กที่เอาแต่พ้นคำด่าใส่อีธานพร้อมกับพยายามดิ้นไปด้วย ซึ่งก็ทำให้อีธานที่เห็นแบบนั้นถึงกับหัวเราะออกมาในลำคอเบาๆอย่างชอบใจ ก่อนจะโน้มใบหน้าหล่อเข้าไปกระซิบที่ข้างหูของคนตัวเล็ก “มึงรู้ไหมว่ากูเลวได้มากว่านี้อีกนะ” “เลว--- อื้อ!! อื้ออ~”