
ฝ่าบาท... ประหารหม่อมฉันเถิดเพคะ

‘ฝ่าบาท... ประหารหม่อมฉันเถิดเพคะ’ เป็นนิยายตลก น่ารัก ใส ๆ อ่านได้ทุกเพศทุกวัย สนุกถูกใจคุณนักอ่านแน่นอนค่ะ เรื่องย่อ : เว่ยชิงถิงทั้งสวยและรวยมาก ทว่าชะตาอาภัพดุจละครน้ำเน่าทำให้นางไม่อาจมีความสุขบนกองเงินกองทองของตัวเองสักวัน ทางเดียวที่เว่ยชิงถิงจะมีอิสระ ได้ใช้ชีวิตสวยหรูดั่งวาดหวัง คือต้องทำให้ฮ่องเต้ซีเหมินเหวินซีสั่งประหารนางเท่านั้น ภารกิจป่วนชวนตายจึงเริ่มขึ้น!!! แนะนำตัวละคร : คุณหนูถิงถิง = เซเลบริตี้สาวสวยผู้ถูกศาลเจ้าร้างทับตาย เพราะความปากเปราะท้าทายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำให้ย้อนเวลามาเกิดใหม่ในยุคโบราณ เว่ยชิงถิง = ลูกสาวขุนนางระดับสูงผู้มีความลับยิ่งใหญ่พอ ๆ กับเป้าหมายสูงสุดในชีวิต นางถูกกลั่นแกล้งจนจับพลัดจับผลูถวายตัวเป็นพระสนม ทว่าหนทางหลุดพ้นจากวังวนของวังหลวงมีแต่ตายสถานเดียว นางจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อได้มาซึ่งโทษประหาร ซีเหมินเหวินซี = ฮ่องเต้หนุ่มรูปงามผู้ชิงชังเว่ยชิงถิงยิ่งกว่าสิ่งใดทั้งปวง เขาพยายามมอบความตายให้นางหลายต่อหลายครั้งแต่ไม่ประสบความสำเร็จสักที หลี่อิงฮวา = ลูกสาวคนเดียวของแม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นผู้ตั้งมั่นจะขึ้นเป็นฮองเฮาของซีเหมินเหวินซีให้ได้ นางคือเจ้าของสิ่งล้ำค่าที่เว่ยชิงถิงปรารถนาสูงสุด และใช้สิ่งนั้นทำร้ายเว่ยชิงถิงอย่างโหดร้ายที่สุด ตัวอย่างเส้นทางสู่ความตายของเว่ยชิงถิง : “ถิงเฟย!” ซีเหมินเหวินซีกระชากเสียงขณะมองชิงถิงด้วยท่าทางถมึงทึง... จังหวะนั้นแอบชะงักเล็กน้อย... เขาไม่ได้คิดเองใช่ไหม? นางเหมือนจะอัปลักษณ์ยิ่งกว่าครั้งล่าสุดที่เจอกัน! “ถวายบังคมเพคะ” ชิงถิงยอบกายถวายความเคารพด้วยรอยยิ้ม ยินดีปรีดาว่าวันตายมาถึงสักที ซีเหมินเหวินซีกลับแปลสีหน้าเปี่ยมสุขของนางไปอีกทาง “เหตุใดตำหนักเจ้าถึงเหม็นราวส้วมแตก? คิดใช้กลิ่นอาจมล่อลวงให้เจิ้นมาหาหรือ?” “เปล่านะเพคะ” ชิงถิงรีบปฏิเสธ ตอบกลับแบบไม่ทันคิด “มีแต่แมลงวันเท่านั้นที่บินตามกลิ่นอาจม” “บังอาจ! เจ้าเปรียบเทียบเจิ้นเป็นแมลงวัน” “ถิงเฟยน่าจะหมายความว่าฝ่าบาทไม่ใช่แมลงวันต่างหากพ่ะย่ะค่ะ” ลู่เหยาพยายามอธิบายแทน ซีเหมินเหวินซีตวัดสายตาที่อ่านได้ว่า ‘เจ้าเป็นพวกใคร?’ ลู่เหยาเลยทำหน้าจ๋อยถอยไปยืนข้าง ๆ “ว่าอย่างไร? เจิ้นถามว่าทำไมตำหนักเจ้าถึงเหม็นนัก?” “เอ่อ... คือว่า... เชิญฝ่าบาททอดพระเนตรเองเถิดเพคะ” ชิงถิงเดินนำไปด้านหลังตำหนัก มันมีแปลงปลูกผักสวนครัวหลายชนิด เรียงรายเป็นแถวยาวสองข้าง ส่วนตรงกลางเป็นร่องน้ำขนาดปานกลาง เดินเลยบริเวณนั้นไปหน่อยคือสิ่งที่ทำให้ซีเหมินเหวินซีตกตะลึง... เล้าหมู! นางสร้างเล้าหมูในพระราชวังของเขา พระราชวังต้องห้ามซึ่งมีประวัติยาวนาน สถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันเป็นต้นกำเนิดแห่งประมุขของแผ่นดินคนแล้วคนเล่า แถมยังเป็นสิ่งปลูกสร้างทรงคุณค่าทั้งทางสถาปัตยกรรมและอารยธรรมชั้นสูง ถูกนางทำแปดเปื้อนด้วยเล้าหมูโสโครก! เสียงร้องอู๊ด ๆ เหมือนเสียงหัวเราะเย้ยหยัน เมื่อแต่ละตัวขยับ กลิ่นโคลนเฉอะแฉะผสมอาจมของพวกมันลอยฟุ้งอบอวล ยั่วให้เขาโมโหจนควันออกหู “ยัยอัปลักษณ์สิ้นคิด รู้ตัวไหมว่าทำอะไรลงไป!” ซีเหมินเหวินซีแผดเสียงลั่น เหล่าผู้ติดตามถึงกับทรุดลงหมอบราบ เว้นเพียงลู่เหยากับชิงถิง เอาแล้ว... ชิงถิงลอบยิ้มมุมปาก เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์นางต้องแหย่เขาอีกหน่อย “เกษตรพอเพียงเพคะ” คำตอบใสซื่อในเวลาไม่เหมาะสม นอกจากไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น ยังทำให้สถานการณ์แย่ลง “กลิ่นขี้หมูของเจ้าทำผู้อื่นเดือดร้อนรำคาญ ยังไม่รู้ตัวอีก เจ้ามันสมควร...” “ตาย!” ชิงถิงดีใจจนเผลอจบประโยคแทนเขา “หม่อมฉันสมควรตายเพคะ” ซีเหมินเหวินซีเหวอนิดหน่อย ท่าทางของนางทำให้เขาสับสน นางอาจกำลังสำนึกผิดจริง ๆ ไม่ก็แกล้งเสนอทางตายขึ้นมาก่อน เพื่อให้เขาออกคำสั่งในทางตรงข้าม ดูจากสีหน้าแช่มชื่นน่าจะเป็นอย่างหลัง “คิดว่าเจิ้นจะไม่สั่งประหารเจ้าหรือ?” ซีเหมินเหวินซีหรี่ตาเรียวคม มองชิงถิงอย่างร้ายกาจ “ประทานสุราพิษ!” “เยส!”