ลิขิตสายัณห์
นักเขียนสายโรมานซ์เปลี่ยนแนวไปเขียนนิยายสืบสวนครั้งแรกโดยอ้างอิงจากคดีโด่งดังที่เกิดขึ้นจริง ณ ขณะนั้น ส่งผลให้ชีวิตที่สงบสุขของเธอต้องเข้าไปพัวพันกับนายตำรวจหนุ่มอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เมื่ออยู่ๆ เธอก็ตกไปเป็นตัวประกันและกลายเป็นหมากตัวสำคัญของคดีดังกล่าวโดยไม่รู้ตัวมาก่อน แถมยังถูกพรหมลิขิตเล่นงานเข้าให้อย่างหนักเสียด้วยสิ “สีหน้าคุณดูเป็นกังวลนะคะ มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า” “นิดหน่อยครับ” เขาพยักหน้า “ฉันพอจะช่วยอะไรได้บ้างไหมคะ” เธอยื่นหน้าเข้าไปใกล้เขา เตชินท์สบตากับเธอ “พ่อกับแม่ผมบินกลับมาจากอเมริกาเพื่อเซอร์ไพรส์ผม แล้วก็เพื่อจะมาดูตัวว่าที่ลูกสะใภ้ พวกท่านอยากให้ผมแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝามาก จะได้มีคนมาดูแลผมแทนพวกท่านสักที” เขายกมือลูบปลายคางอย่างคิดไม่ตก “ประเด็นก็คือคุณไม่อยากจะบอกพวกท่านเรื่องที่เพิ่งเลิกรากับอดีตแฟนไปใช่ไหมคะ” เธอดีดนิ้วตรงหน้าดังเป๊าะ “ผมกลัวว่าพวกท่านจะรีบจับคู่หาคนอื่นให้ผมได้ทำความรู้จักน่ะสิครับ” มือของเขาขยับไปนวดอยู่บริเวณหว่างคิ้ว “แล้วแบบนั้นไม่ดีตรงไหนล่ะคะ” เธอครุ่นคิด “ก็ไม่ดีตรงที่ผมถูกมัดมือชกน่ะสิ ผมอยากเรียนรู้กับใครสักคนที่ความรู้สึกของผมต้องการอยากจะเดินหน้าเข้าหาจริงๆ” เตชินท์เงียบไปชั่วครู่ แววตาของเขาเปล่งประกายสะท้อนบางอย่างที่มีความหวัง “คุณพอจะช่วยอะไรผมหน่อยได้ไหมแสงสายัณห์” “คงไม่ได้ให้ฉันช่วยปลอมตัวเป็นแฟนเพื่อไปหลอกพ่อกับแม่ของคุณเหมือนในนิยายน้ำเน่าใช่ไหม” เธอกะพริบตามองเขา “ใช่” เขาดีดนิ้วดังเป๊าะบ้าง “ผมต้องการจะให้คุณทำแบบนั้นแหละ” “ไม่เด็ดขาดเลย” เธอโบกมือปฏิเสธ “ถึงฉันจะเขียนนิยายเก่ง แต่ฉันไม่ถนัดเรื่องเล่นละครนะคุณเต” “คุณทำได้เชื่อผมสิ ถ้าคุณไม่ช่วยผมก็ไม่รู้จะไปขอความช่วยเหลือจากใครแล้วนะ” เขาเว้าวอน แสงสายัณห์ยกมือคลึงขมับบ้าง แววตาของเธอเปล่งประกายขึ้นมาอย่างมีความหวัง ขณะที่เตชินท์หรี่ตาลงราวกับไม่ไว้วางใจความคิดของเธอ “ถ้าฉันช่วยเป็นแฟนปลอมๆ ให้กับคุณ คุณก็ต้องช่วยฉันเรื่องพล็อตนิยาย ตกลงไหมคะคุณสารวัตร” “ผมว่าแล้วเชียว” เขาแยกเขี้ยวใส่เธอ “คุณแสบเสมอคุณนักเขียน และสุดท้ายผมก็จำยอมต้องตกลงอีกจนได้” “เป็นอันว่าดีล” เธอชูมือขึ้นสะบัดไปมาอย่างสมใจ “ดีล” เตชินท์หลุดขำกับท่าทางพิลึกกึกกือของเธอ แต่เขาก็ไม่อาจละสายตาจากเธอไปยังทิศทางอื่นได้เลย