กรงรักอินทรีเหล็ก
“เอ่อ... สกาย... เอ่อ... คือว่าเมื่อกี้ที่นายพูด นายแค่พูดไปอย่างนั้นใช่ไหม นายแค่...” “บางครั้งเธอก็มักจะอวดฉลาดในเรื่องที่ไม่สมควรฉลาด และก็มักจะไม่ฉลาดในเรื่องที่สมควรฉลาดซะด้วยสินะบูม” “นี่นายหาว่าฉันโง่แล้วยังอวดฉลาดอีกใช่ไหมสกาย” “เก่งนี่” นักฟุตบอลหนุ่มกลั้วขำในลำคอ “ทีแบบนี้เธอยังแปลออก แล้วทำไมที่ฉันพูดในงานเธอถึงไม่เข้าใจ” “ฉันไม่ได้โง่นะสกาย แต่ฉันไม่กล้าคิดเข้าข้างตัวเองต่างหากล่ะ” “ฉันหมายความทุกอย่างตามที่พูด” เธอเงยหน้าขึ้นสบตาเขาอีกครั้ง “สกาย” “ฉันหมายความตามที่พูด แล้วเธอล่ะบูมจะว่ายังไง” แข้งดอยช์ละมือข้างหนึ่งจากพวงมาลัย ขยี้ผมหญิงสาวเบื้องข้างเบาๆ “บูม... เธอจะว่ายังไง?” สกายย้ำคำถามซ้ำอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังคงหลุดลอย “ตกลง... สกาย... ตกลง จะว่ายังไงได้อีกล่ะ ในเมื่อนั่นคือสิ่งที่ฉันใฝ่ฝันเลย” บูมิกายืดตัวขึ้น “แล้วเราเป็นแฟนกันหรือเปล่า” เหยี่ยวสาวถามต่ออย่างอดเสียไม่ได้ พระเจ้า เธอเป็นผู้หญิง เธอควรจะนั่งบิดตัวนิดๆ แล้วรอจนกว่าสกายจะเป็นฝ่ายพูดคำนี้ออกมาเอง ไม่ใช่ไปรวบรัดเขาเอาอย่างนั้น “ก็แล้วแต่เธอจะคิดสิบูม” แข้งวัยยี่หกแสร้งพูด ถ้าเธอจะให้เป็นอะไร เขาก็ยอมเป็นได้ทุกอย่างนั่นแหละ “งั้นตอนนี้นายเป็นแฟนฉันแล้วนะสกาย”