![จางหมี่สาวน้อยผู้มีตาทิพย์ เล่ม.2](https://image.dek-d.com/2024/04/ebook/cover_3d654477886f32043cd4b7094789e930.jpg?t=1732784268)
จางหมี่สาวน้อยผู้มีตาทิพย์ เล่ม.2
![จางหมี่สาวน้อยผู้มีตาทิพย์ เล่ม.2](https://image.dek-d.com/2024/04/ebook/cover_3d654477886f32043cd4b7094789e930.jpg?t=1732784268)
เพราะวันนี้เป็นเย็นวันศุกร์ที่คนส่วนใหญ่มักจะออกไปทานอาหารข้างนอกและสัปดาห์นี้มีวันหยุดยาวติดกันถึง 5 วันทำให้รถติดมากเป็นพิเศษ ดังนั้นกว่าสองแม่ลูกจะกลับถึงบ้านก็เป็นเวลาเกือบ 6 โมงเย็นแล้ว ป้าถงที่มีผ้ากันเปื้อนผูกอยู่ที่เอวเดินออกมารับพวกเธอทันทีที่ได้ยินเสียงรถ เพราะจางหมี่อยู่กับแม่แค่สองคนดังนั้นการทานอาหารส่วนใหญ่พวกเขาจึงไปทานที่บ้านป้าถง (ที่อยู่ข้างๆ นั้นละ) เย็นวันนั้นหลังจากที่ทานอาหารเสร็จเรียบร้อยจางหมี่ก็บอกแม่ว่าวันนี้เธอจะทำยาบำรุ่งร่างกายให้กับทุกคน ถ้ามีเสียงดังก็ไม่ต้องกังวลอะไร และยาที่เธอจะทำจำเป็นต้องใช้เวลาในการเคี่ยวส่วนผสมถึง 4 วัน4คืน จางหมี่จึงบอกแม่เธอว่าไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารของเธอใน 4 วันนี้เธอจะจัดการเองและได้บอกแม่ให้บอกป้าถงด้วย จางเจินที่เห็นลูกสาวหอบของออกมาจากร้านขายสมุนไพรก็รู้ว่าลูกสาวคงอยากจะลองทำดู เธอไม่ว่าอะไร ก่อนออกจากร้านของชายชราจางหมี่ได้บอกเขาไปแล้วว่าตอนนี้เธอยังไม่สามารถที่จะหลอมยาอายุวัฒนะได้เพราะร่างกายของเธอนั้นยังไม่แข็งแกร่งพอ ที่เธอทำได้ตอนนี้คือ หลอมยาชำระไขกระดูกและเธอยังต้องการสมุนไพรเพิ่มอีก 2-3 อย่าง เธอถามเถ้าแก่ว่าเขาเต็มใจจะรอหรือไม่ เถ้าแก่นั้นไม่คิดอะไรมากเลย ไม่ว่าจะเป็นยาชำระไขกระดูกหรือยาอายุวัฒนะล้วนแต่เป็นของวิเศษทั้งนั้น เขาได้ยินเพียงคำเล่าขานจากบรรพบุรุษ มาครั้งนี้มีคนที่สามารถหลอมยาวิเศษนั้นได้ทั้งสองชนิดจะไม่ให้เขาตื่นเต้นได้อย่างไร เขาต้องการทั้งสองอย่าง และสมุนไพรที่เธอต้องการเขาก็สามารถหาให้ได้เช่นกัน เช่นนั้นเธอจึงได้ตกลงที่จะทำยาชำระไขกระดูกให้เขาด้วย เถ้าแก่นั้นร่างกายไม่มีพลังปราณเหมือนกันกับแม่และลุงป้าของเธอดังนั้นเธอจึงจะทำยาที่มีความบริสุทธิ์4ส่วนให้เขา จางหมี่เมื่ออาบน้ำชำระร่างกายเรียบร้อยก็เริ่มการทำยาชำระไขกระดูกทันที ส่วนผสมที่เธอได้จัดแยกออกมาจากกล่องหยกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่หนึ่งสำหรับเธอที่ต้องการให้ความบริสุทธิ์ของยามากที่สุดยิ่งได้ถึง9ส่วนยิ่งดี เธอจัดออกมาดังนี้ ต้นสายน้ำผึ้ง 1 กิ่ง หญ้าจักรพรรดิ 1 ต้น ดอกเพลิง 3 ดอก โสมสีทอง 1 ดอก ผลหยาดน้ำค้าง 1 ผล น้ำพุศักดิ์สิทธิ์ 1 ถ้วย และอีกส่วนเธอจัดแยกออกมาโดยแบ่งให้ตัวสมุนไพรลดลงตามความบริสุทธิ์ที่เธอต้องการจะได้ที่ 4 ส่วน โดยเธอจะทำการหลอมยาชำระไขกระดูกของแม่ก่อนเพราะไม่ต้องการให้มีความเข้มข้นมากเกินไปดังนั้นระยะเวลาที่เธอจะใช้เพียง 1 วันก็สามารถทำเสร็จ ส่วนของเธอนั้นจะต้องใช้ 3 วัน ดังนั้นเธอจึงรีบทำยาของแม่ให้เสร็จ เพื่อเธอจะได้มีเวลาทดลองยาของเธอก่อนที่จะเปิดเรียน เธอเริ่มบดสมุนไพรทั้งหมดให้ละเอียดและผสมสมุนไพรบดกับน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ แล้วนำส่วนผสมลงใน "เตาห้าธาตุ" ควบคุมอุณหภูมิของเตา โดยใช้พลังจากธาตุดิน น้ำ ไฟ ลม อากาศ และเริ่มการหลอมยาทันที เวลาผ่านไปเพียงหนึ่งวัน ยาของแม่เธอเสร็จเรียบร้อยเธอเก็บเอาไว้ในกล่องหยกที่มีสมุนไพรวิเศษเหล่านั้นอยู่ และเริ่มหลอมยาของตัวเอง จากวันที่สองวันเข้าสู้วันที่สามและในที่สุดก็ครบกำหนด 4 วัน 4 คืนที่เธอใช้เวลาในการหลอมยา เมื่อครบกำหนด เธอได้เปิดเตาห้าธาตุ ทันทีที่เตาถูกเปิดออกกลิ่นหอมก็กระจายออกมาในอากาศทันที จางหมี่ที่ร่างกายค่อนข้างเหนื่อยล้าทันทีที่ได้กลิ่นของยาชำระไขกระดูกเธอก็รู้สึกสดชื่นเหมือนพลังกลับคืนมาหลายส่วน เธอหยิบเม็ดยาขึ้นมา สีทองอร่ามเป็นประกาย เรียบ เย็น และส่งพลังปราณออกมาอย่างแผ่วเบา นี่สิถึงจะเป็นยาชำระไขกระดูกของตำรับสำนักบู้ตึ้งของเธอ เธอทำสำเร็จแล้ว เม็ดยาหลอมสำเร็จในตอนเช้ามืด จางหมี่ที่ใช้เวลาหลายวันในห้องไม่ได้อาบน้ำพอเธอทำเสร็จจึงได้อาบน้ำชำระร่างกายแล้วล้มตัวลงนอนพักทันที ช่วงสายของวันนั้นหลังจากตื่นนอน จางหมี่ก็เดินออกมาข้างนอก เธอพบแม่และป้าถง และลุงเจียงนั่งดื่มชากันอยู่ในห้องโถง เธอมองเห็นความว่าทั้งสามคนนั้นรู้สึกเบื่อเพราะมีเวลาว่างมากเกินไป แต่อีกไม่นานหรอก ทั้งสามคนคงจะไม่ว่างแน่นอน หึหึหึ.. “หมี่ หมี่ ออกมาแล้วหรือลูกหิวหรือเปล่าเดียวป้าจะไปตักโจ้กมาให้ นั่งก่อน นั่งก่อน” ป้าถงที่เห็นเธอเดินออกมาก่อนใครรีบเดินมาหา และอาสาไปตักอาหารให้กับหลานสาวทันที เมื่อจางหมี่ทานอาหารเสร็จเธอก็เดินไปนั่งสมทบกับทั้งสามคน ส่วนเสี่ยวซิน นั้นขออนุญาตแม่ของเธอออกไปทานไอศกรีมกับเพื่อนข้างนอก เมื่อจางหมี่นั่งลงทุกคนก็หันไปมองหน้าเธอทันที จางหมี่มองทุกคนอย่างละเอียดอีกครั้ง แม่และป้าถงเป็นผู้หญิงที่หน้าตาสวยทั้งคู่จริงๆ แต่ด้วยความลำบากของชีวิตทำให้พวกเธอทั้งสองคนมีริ้วรอยขึ้นที่หางตาและรองแก้มเลยดูมีอายุ แก่ก่อนวันไปเล็กน้อย ส่วนลุงเจียงนั้นอาจจะหนักกว่าทั้งสองคนอยู่สักหน่อยเพราะที่ผ่านมาเขาต้องทำงานก่อสร้างมาเลี้ยงดูครอบครัวมาตลอด แต่ดูๆ ไปลุงเจียงนั้นก็ดูหล่อเข้มไม่เบาเหมือนกันนะเนี้ย “ช่วงนี้แม่กับลุงป้าปรับตัวเข้ากับบ้านใหม่ของเราได้หรือยังคะ” เธอถามทั้งสามคนขึ้นมา “ป้าอยู่บ้านจนเบื่อแล้วละลูก ที่ผ่านมาพวกเราต้องทำงานกันมาตลอดพอได้อยู่เฉยๆ ป้ารู้สึกเบื่อๆ อย่างไรก็ไม่รู้” ลุงเจียงที่นั่งข้างภรรยาพยักหน้าเห็นด้วย เขาก็เบื่อเหมือนกัน ปรกติต้องตื่นแต่เช้ารีบเร่งออกไปทำงานตากแดดตัวดำทั้งวัน มาตอนนี้เขาอยากจะตื่นเช้าภรรยาก็ไม่ยอม บังคับให้เขานอนเยอะๆ เขาเลยรู้สึกไม่ชินเท่าไหร่ ส่วนแม่ของเธอก็เช่นกันเพียงแต่เธออยากจะตามใจลูกสาวเลยไม่พูดอะไรถึงจะรู้สึกเบื่อสักหน่อยก็ตาม “วันก่อนหนูดูข่าวตอนนี้ผู้คนกำลังสนใจดูแลเรื่องสุขภาพ กันมาก โดยเฉพาะพวกผู้หญิงที่อยากจะดูเด็กอ่อนเยาว์ตลอดเวลา เอาอย่างงี้ไหมคะ พวกเราหาร้านแล้วเปิดร้านชาเพื่อสุขภาพกันไหมคะ พอดีหนูมีแหล่งที่เขาผลิตชาเพื่อสุขภาพหนูดูแล้วคุณภาพดีมากเลย” จางหมี่เสนอความคิดเรื่องการเปิดร้านให้กับทั้งสาม จางหมี่มองเห็นโอกาสทองในการสร้างธุรกิจที่ไม่เหมือนใคร เธอได้อธิบายกับทั้งสามคน เรื่องไอเดียการเปิดร้านชา "เทพธิดาสวรรค์" ที่จะนำเสนอประสบการณ์การดื่มชาอันล้ำลึกเหนือระดับ ภายในร้านจะมีพิธีการชงชาแสดงให้ลูกค้าได้ชมวันละ 3 รอบ โดยเธอจะเป็นคนสอนให้แม่ ป้าถงและพนักงานเอง โดยศาสตร์การชงชานั้นมีมาแต่โบราณและเธอก็เคยเป็นคนโบราณมาก่อนดังนั้นเรื่องพิธิการชงชาของเธอนั้นได้รับการถ่ายทอดมานาน เมื่อพูดเสร็จ จางหมี่บอกกับแม่และป้าว่าเธอจะแสดงการชงชาแบบโบราณให้พวกเขาชม และดูสิว่าถ้านำไปแสดงในร้านชาของพวกเธอผู้คนจะชอบหรือไม่ พูดเสร็จก็เดินออกไปหาอุปกรณ์สำหรับทำพิธีการชงชาทันที การชงชาไม่ใช่แค่การต้มน้ำร้อนแล้วใส่ใบชา แต่เป็นศาสตร์และศิลป์ที่สืบทอดมายาวนาน สำนักบู้ตึ้งนั้นศิษย์ทุกคนจะได้รับการถ่ายทอดพิธีนี้ ในพิธีกรรมการชงชาแบบโบราณ ที่มีความประณีต พิถีพิถัน และเปี่ยมไปด้วยสุนทรียภาพเธอ เตรียมอุปกรณ์ กาต้มน้ำทองแดง ถ้วยชาเซรามิกกาน้ำร้อนสำหรับรินน้ำร้อน ใบชาชั้นดี ช้อนตวงชา ตะแกรง ชามช้อนและที่เป็นหัวใจของการชงชาคือน้ำทิพย์สวรรค์ จางหมี่เริ่มพิธิการด้วยการล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำร้อน การล้างมือเป็นการแสดงถึงความเคารพต่อชาและผู้ดื่ม และเริ่มต้มน้ำร้อนด้วยไฟอ่อน จนเดือดพล่าน เธอค่อยๆ รินน้ำร้อนลงในถ้วยชา เพื่ออุ่นถ้วยและกระตุ้นกลิ่นชา และค่อยๆ ตวงใบชาใส่ชามช้อน เทลงในกาน้ำร้อนรินน้ำชาลงในถ้วยชาอย่างช้าๆ วนเป็นวงกลม เธอยกถ้วยชาขึ้น ชมสี กลิ่น และความงามของชา เธอวางถ้วยชาที่รินลงตรงหน้าทั้งสามคนที่ตอนนี้เรียกได้ว่าตกอยู่ในมนต์สะกดของพิธีการชงชาของเธอก็ว่าได้ จางหมี่กระตุ้นพวกเขาเบาๆ ว่าให้จิบชา พวกเขาจึงได้ยกถ้วยชาและ ค่อยจิบชาทีละนิด สัมผัสรสชาติ กลิ่น และความรู้สึก ทันทีที่น้ำชาน้ำทิพย์แตะปลายลิ้น ราวกับเกิดประกายแสงสีทองอร่ามก็สว่างวาบขึ้นในจิตพวกเขา ความรู้สึกเย็นสบาย เฉียบพลัน แผ่ขยายไปทั่วร่างกาย ราวกับสายน้ำบริสุทธิ์ชะล้างสิ่งปฏิกูล กลิ่นหอมหวนของชาโชยแตะจมูก ผสมผสานกับกลิ่นอายของธรรมชาติ ราวกับหลุดไปอยู่อีกมิติ ในจิตใจเกิดความสงบ ผ่อนคลาย ความคิดฟุ้งซ่านจางหายไป สายตาจับจ้องไปที่ถ้วยชา ความรู้สึกเหมือนดั่งมองเห็นสายน้ำวนเวียน ราวกับมีชีวิต ทันใดนั้น ภาพนิมิตต่างๆ ก็ปรากฏขึ้นในจิตของพวกเขาสามคน พวกเขาเหมือนกับมอง เห็นภาพทุ่งหญ้าเขียวขจี ดอกไม้หลากสีสัน บรรยากาศสดใส เห็นภาพภูเขาสูงใหญ่ น้ำตกไหลริน เสียงนกร้องเพลง เห็นภาพผู้คนยิ้มแย้มแจ่มใส สุขภาพดี เต็มไปด้วยความสุข เมื่อจิบชาครั้งที่สอง รู้สึกเหมือนร่างกายลอยขึ้น เบาสบาย ความรู้สึกอ่อนเยาว์ กลับมาอีกครั้ง ราวกับย้อนวัยไปเป็นเด็ก ความคิด ความอ่าน ปลอดโปร่ง ปัญหาต่างๆ ที่เคยกังวล กลายเป็นเรื่องเล็ก เมื่อจิบชาจนหมดถ้วย รู้สึกเหมือนได้ชาร์จพลังและหน้าตาผ่องใสขึ้นมาทันทีราวกับปาฏิหาริย์ พวกเขาราวกับจะพร้อมเผชิญกับทุกอุปสรรคในชีวิตทุกอย่าง เหมือนมีพลังมากล้นไหลเวียนในร่างกาย ความเหนื่อยล้าหายไปจนสิ้น ชาเทพธิดาสวรรค์ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชา แต่เป็น น้ำทิพย์ ที่มอบความอ่อนเยาว์ สุขภาพดี และพลังให้พวกเขา “นี้มันความรู้สึกอะไรกัน” ป้าถงที่จิบชาน้ำทิพย์หมดเป็นคนแรกเอ่ยขึ้นมา เธอหันไปมองหน้าหลานสาว เธอไม่เคยสัมผัสการดื่มชาที่อัศจรรย์ขนาดนี้มาก่อนความรู้สึกเมื่อครู่ที่เธอรู้สึกนั้นช่างเหมือนจริงมาก เธอถึงกับยื่นมือออกมาเพื่อจะสัมผัสมัน และแล้วเมื่อดื่มชาหมดถ้วยถึงได้รู้สึกตัว “ชานี้เรียกว่าชาน้ำทิพย์สวรรค์ที่ฉันจะนำมาชงในร้านของเราค่ะ ป้าถงคิดว่าถ้าเราชงชาแบบนี้ ร้านของเราจะดังไหมคะ” จางหมี่ถามขึ้นมา “อย่างว่าแต่ดังเลยลูก ถ้าร้านเราเปิดจะเพียงพอให้พวกเขามาใช้บริการหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย” หัวใจสำคัญของร้านชาแห่งนี้ คือ "น้ำทิพย์สวรรค์" น้ำแร่ที่ผ่านการแช่ด้วยหินน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ หินชนิดนี้มีความพิเศษที่สามารถเปลี่ยนน้ำธรรมดาให้กลายเป็นน้ำทิพย์ เปี่ยมไปด้วยคุณสมบัติอันมหัศจรรย์ น้ำทิพย์สวรรค์ ไม่ได้เป็นเพียงน้ำชาธรรมดา แต่เปรียบเสมือนน้ำอมฤตจากสรวงสวรรค์ คุณสมบัติอันน่าทึ่งของน้ำทิพย์ ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย ส่งผลให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง แลดูอ่อนเยาว์ ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ น้ำทิพย์ช่วยเพิ่มพลังงานและความสดชื่น น้ำทิพย์ช่วยบำรุงสมอง เพิ่มความจำและสมาธิได้ด้วย จางหมี่ไม่ต้องการให้เห็นผลทันตาขนาดนั้น ดังนั้นน้ำที่ใช้ชงชาจังไม่ได้เข้มข้นมากนั้น เธอวางแผนให้ร้านชา"เทพธิดาสวรรค์" ไม่ได้เป็นเพียงร้านชา แต่เป็นสถานที่ที่มอบประสบการณ์การดื่มชาอันล้ำลึก ผ่อนคลาย และเหนือระดับ ร้านจะถูกออกแบบให้กลมกลืนกับธรรมชาติ เน้นโทนสีขาว สะอาดตา สื่อถึงความบริสุทธิ์ของน้ำทิพย์ บรรยากาศภายในร้านเงียบสงบ ผ่อนคลาย เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ พนักงานได้รับการอบรมให้มีความรู้เกี่ยวกับคุณสมบัติของน้ำที่พิเศษกว่าที่อื่นและชาแต่ละชนิด ทางร้านมีชาหลากหลายชนิดให้เลือกสรร ผสมผสานกับน้ำทิพย์สวรรค์ การชงชาไม่ใช่แค่การต้มน้ำร้อนแล้วใส่ใบชา แต่เป็นศาสตร์และศิลป์ที่สืบทอดมายาวนาน ทั้งสามคนนั้นเห็นด้วยทันทีที่จางหมี่อธิบายเสร็จ “แต่ก่อนที่พวกเราจะเปิดร้านชาสวรรค์ หนูคิดว่าพวกเราจะต้องดูแลตัวเองก่อนค่ะ พวกเราจะต้องดูดี ก่อนที่ร้านจะเปิด” เมื่อพูดเสร็จเธอได้ว่างกล่องยาลงบนโต๊ะ ในกล่องนั้นคือ ยาชำระไขกระดูกที่เธอหลอมเพื่อทั้งสามคนนั้นเอง *****มาถึงเวลาเปลี่ยนตัวเองให้สวยกันแล้วค่ะแม่ป้าถงลุงเจียง***