
ชายธง เล่ม 1

ฤดูน้ำหลากที่รุนแรง น้ำท่วมกรุงศรีอยุธยามาจากแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักที่ไหลผ่านกรุงศรีอยุธยาและแม่น้ำสาขาอื่นๆ เช่น แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำน้อย น้ำท่วมสูงถึงสอง ศอก ส่งผลให้กองทัพพม่าที่กำลังล้อมกรุงศรีอยุธยาต้องล่าถอยทิ้งไว้แต่ร่องรอยสงคราม ทำให้พื้นแผ่นดินกลายเป็นสีแดงทั่วทุกแห่งหน ทุ่งหญ้า ป่าดง และแม่น้ำกลางเป็นสีเลือด ฤดูที่ผ่านพ้นสร้างความยากลำบากกับผู้ที่มีฐานะต่ำต้อย แต่กับคนชั้นสูง ขุนนาง ยังคงสุขสบายราวกับอยู่คนละแผ่นดิน ทาสต้องนอนขดอดทนกับความหิวโหยที่แทรกซึมถึงกระดูก ภาวนาเพียงให้ค่ำคืนที่แสรกดขี่พ้นผ่านไปโดยเร็ว ทุ่งหญ้านอกประตูวังทางทิศตะวันตกเต็มไปด้วยซากศพที่พัดลอยมากับน้ำ ทาสที่ผ่านสงครามเป็นแค่การใช้งานขั่วคราว แต่สำหรับทาสที่ถูกนายทาสทรมานอย่างไร้ความปราณี ถูกใช้เป็นเครื่องระบายอารมณ์ทุกวันผ่านไปวันแล้ววันเล่า คล้ายกรงขังสิ่งมีชีวิต กรงที่มองเห็นแสงเดือนและแสงตะวันแต่ภายในใจตรอมตรม ทาสบางคนหลบหนีแลกกับอิสระภาพ บ้างก็ถูกขายราวกับเศษผักที่เหลือเดน ทาสบางคนก็อดทนอย่างใจจดใจจ่อ รอคอยสักวันที่จะได้ล้างแค้น แม้กายจะลำบาก แต่ก็ยังดีที่ทีคนรักคอยอยู่เคียงข้าง นี้เป็นเรื่องที่ผ่านมาไม่นาน ชายธงทาสหนุ่มและนางเดือนทาสสาว ทั้งสองแอบรักกันในเรือนของเจ้าโตน ความรักของพวกเขาเหมือนนกที่ถูกขังอยู่ในกรงรอวันที่จะได้รับอิสระ ได้ใช้ชีวิตผัวเมีย ชายธงตัดสินใจพานางเดือนหลบหนี แต่ถูกพวกลูกน้องเจ้าโตนจับได้ ทั้งสองจึงโดนลงโทษอย่างทรมานจนสาสม เจ้าโตนเป็นคนใจโหด งานที่เขาทำไม่สนความยุติธรรม เจ้าโตนขายชายธงและเมียให้แยกออกจากกัน ห่างกันคนละโยดแบบที่ไม่มีวันหากันเจอ ชายธงทาสหนุ่มถูกขายมาถึงกรุงศรีอยุธยาด้วยสภาพที่ตัวนั้นมีแต่ความด่างพร้อย มีตำหนิที่หลังเป็นรอยถูกแซ่ฟาด ขายในราคาถูก จิตใจของชายธงเต็มไปด้วยความคับแค้น ตนนั้นเป็นแค่ทาส จะมีอะไรไปสู้ อำนาจของเจ้าโตน ตระกูลที่ประกอบ คดโกงทุจริตมารุ่นต่อรุ่น แต่ประชาชนทั่วไปกลับไม่เคยเห็นเจ้าโตนปรากฏตัว หรือร่องรองของการคดโกง ฟ้ายกคนเลวให้สูงส่ง ส่วนนางเดือนเมียของชายธงจะตายแล้วหรือยังมีชีวิตอยู่ ไม่มีผู้ไดตอบคำถามนี้ได้ จวบจนกระทั่ง...