
ข้ามมิติมาป่วนรัก

“ไม่อยากพูดก็ไม่ต้องพูด เสี่ยวถิงหยุดรถม้าข้าจะลง” เมื่อเขายังคงเงียบเธอก็ไม่อยากจะนั่งร่วมรถม้ากับเขาด้วยฤทธิ์ของสุราบวกกับรถม้าที่โคลงเคลงเมื่อลุกขึ้นยืนจึงทำให้นางเสียหลักลงไปนั่งบนตักของเฟิวเยว่โดยไม่ตั้งใจเปิดโอกาสให้เขาได้โอบกอดเธอไว้ “ใครสั่งให้เจ้าหยุดรถม้า” เสี่ยวถิงที่อยู่ด้านนอกได้ยินดังนั้นจึงได้บังคับรถม้าไปต่อ หากแต่เขาไม่เคยเห็นเจ้านายมีอารมณ์ฉุนเฉียวเช่นนี้มาก่อน “ปล่อยข้าสิ” ร่างบางขืนตัวแต่กลับถูกเขากอดเอาไว้แน่น “............” “นี่ข้าบอกให้เจ้าปล่อย...ข้า...ไง” ซูเหวินน้ำเสียงอ่อนลงเมื่อเห็นแววตาขึงขังที่มองมาก่อนจะค่อยๆ ขยับลุกแต่กลับถูกเขารั้งเอวเอาไว้อีกครั้ง “ทำไมอยู่ใกล้ข้าแล้วเจ้ากลัวหรืออย่างไร เจ้ายังไม่ตอบข้าเลยว่าชอบซ่งเหว่ยใช่หรือไม่” เขาอยากได้ยินจากปากของนางให้แน่ชัด “ก็ทั้งนิสัยดีพูดจาก็เพราะแถมยังไม่ทำหน้ายักษ์ใส่ข้าแบบนี้ด้วย “ ซูเหวินเอ่ยประชดออกไป “หากเจ้าพูดอีกคำเดียวนะข้าจะจูบเจ้าจริงๆ นะ” เมื่อได้ฟังนางเอ่ยชมชายอื่นต่อหน้าก็ไม่อาจข่มความรู้สึกเอาไว้ได้ “ก็มันจริงไหมล่ะ..จะ...” ซูเหวินพูดยังไม่ทันจบประโยคก็ต้องตกใจเมื่อใบหน้าเขาโน้มเข้าใกล้พร้อมทาบทับริมฝีปากลงบนเรียวปากบางอย่างรวดเร็ว “เจ้าพูดจบหรือยัง” น้ำเสียงเธอเริ่มอ่อนลงเมื่อเขาถอนริมฝีปากออกใบหน้าหวานเริ่มแดงก่ำด้วยฤทธิ์สุราหรือบุรุษตรงหน้าหัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นจังหวะ “เอ่อ....คือ....ปล่อยข้าก่อนได้ไหม” น้ำเสียงแผ่วเบาเธอประหม่าอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเขายังคงกอดเธอเอาไว้และแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินที่นางพูด จังหวะเดียวกับที่ม้าตกใจหยุดวิ่งกะทันหันจมูกโด่งจึงกดลงที่แก้มเนียนอย่างไม่ตั้งใจแต่เขาก็สูดเอาความหอมนั้นจนเต็มปอดก่อนยิ้มออกมาอย่างผู้ชนะซูเหวินจึงได้แต่ก้มหน้างุด