
สายลมจันทราข้ารักคุณหนู (ยูริ)

“เจ้าสบายดีหรือไม่” ข้าถอนหายใจที่นางไม่เข้าประเด็นเสียที ตัดสินใจพรั่งพรูความในใจออกมา “ไม่สบายเจ้าค่ะ เมื่อคืนข้านอนร้องไห้ทั้งคืนเลย” อันอวี้ถงทำสีหน้าใจหายเมื่อได้ยินคำพูดนี้ “เจ้าร้องไห้หรือ…” เอ่ยเพียงเท่านั้นก็เอื้อมมือมาจับใบหน้าของข้า แต่ก็โดนข้าปัดมือออกไปอย่างไม่ไยดี! “ก่อนหน้านี้คุณหนูแสดงท่าทีไม่เป็นมิตรต่อข้า มีเพียงช่วงนี้่ที่ดีต่อข้า ชวนข้าไปไหนมาไหน แต่แล้วเมื่อวานคุณหนูก็มองข้าด้วยสายตาผิดหวังราวกับว่าข้าทำความผิดใหญ่หลวง ข้าไม่เข้าใจเจ้าค่ะ คุณหนูอันกำลังปั่นหัวข้าอยู่หรือ” “ข้าเปล่านะ ข้าไม่ได้ปั่นหัวเจ้า ทุกอย่างเกิดจากความเข้าใจผิด” ข้าพยักหน้าเบา ๆ รอฟังว่านางจะแก้ต่างอย่างไร “ก่อนอื่นข้าต้องขอโทษที่ต่อว่าเจ้าเป็นคนทรยศ” “เมื่อวานคุณหนูไม่ได้กล่าวสิ่งใดสักคำ ทั้งยังกล่าวกับท่านแม่ประหนึ่งเป็นลูกค้า มิใช่สหายเช่นที่เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้” ยิ่งโดนคำพูดนี้ อันอวี้ถงยิ่งมีท่าทางรู้สึกผิดมากกว่าเดิม มือเรียวเอื้อมมาจับมือข้าเอาไว้ “ข้าเข้าใจแล้ว เหลียงอันนั่วจะมาขอโทษเจ้าในภายหลัง แต่วันนี้ข้าจะเป็นคนที่ขอโทษเจ้าจากใจจริง” ว่าด้วยคำพูดไม่พอยังลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเตรียมผสานมือทำความเคารพข้า “คุณหนู!” แล้วข้าจะยอมให้นางทำเช่นนั้นได้อย่างไร รีบลุกขึ้นจากที่นั่งห้ามนางไม่ให้กระทำการเช่นนั้น “ข้าไม่ได้ต้องการแบบนี้ คุณหนูอย่าทำนะเจ้าคะ” อันอวี้ถงไม่ฟัง ดึงมือออกจากมือของข้า ดังนั้นข้าจึงใช้วิธีการที่เพิ่งคิดได้ ดึงร่างเพรียวเข้ามาในอ้อมแขนทันที “ดีกันแล้วเจ้าค่ะ ข้าให้อภัยท่านแล้ว อย่าได้คารวะกันเลยนะเจ้าคะ” อันอวี้ถงตัวแข็งทื่อ ไม่ขยับเขยื้อนกายเลยสักนิด ดูท่านางคงจะตกใจมาก “นี่เจ้า…” หลังจากหาเสียงตัวเองเจอแล้วนางก็เอ่ยขึ้นเพียงเท่านั้น พูดไม่ออกเมื่อโดนข้าดึงเข้ามาสวมกอดอีกครั้ง นางสูงกว่าข้า เมื่อกอดกันใบหน้าจึงซบอยู่ที่อกนุ่มโชยกลิ่นกอมกรุ่น ข้าหลับตาพริ้มกอดนางนิ่ง ๆ จนกระทั่งนางเป็นฝ่ายดันข้าออกก่อน ข้าถึงได้ลืมตาขึ้นมองนางอย่างตั้งคำถาม “มองข้าตาใสเชียวนะ ในวัดในวาจะกอดกันเช่นนี้ได้อย่างไร ต่อให้เราจะเป็นสตรีด้วยกันก็ต้องสำรวมเอาไว้ก่อน” ข้าค่อย ๆ ปล่อยกอดมองหน้าที่แต่งแต้มมาอย่างประณีต ดวงตาคมเฉี่ยวมีเสน่ห์คือสิ่งที่ทำให้ข้าไม่กล้าเอาตัวเข้าไปใกล้นาง แต่พอได้รู้จักนิสัยใจคอกันจริง ๆ แล้วกลับพบว่านางเป็นคนน่ารักที่จะแผลงฤทธิ์ใส่คนที่มีเหลี่ยมกับนางเท่านั้น “เจ้ารีบกลับหรือไม่” ข้าส่ายหน้าเพราะวันนี้ไม่ได้เปิดโรงรับจำนำ “ไม่เจ้าค่ะ ทำไมหรือเจ้าคะ” อันอวี้ถงยิ้มคล้ายได้ใจ เอื้อมมือมาจับข้อมือข้าไว้แล้วพาเดินออกมาจากศาลา “ข้าซื้อที่นอกเมืองเอาไว้ ตอนนี้สร้างจวนหลังเล็กเสร็จแล้ว ข้าจะพาเจ้าไปดูพื้นที่ในฝันของข้า” พื้นที่ในฝันเช่นนั้นหรือ นางอนุญาตให้ข้าเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวแล้ว ใช่หมายความว่านางเปิดใจรับข้าแล้วหรือไม่ ว่าแต่เหตุใดข้าถึงดีใจเพียงนี้!