เทวีอโณณา

เมื่อเพื่อนของเธอหายไปในอุทยานแห่งหนึ่งอย่างไร้ร่องรอย เธอที่เปรียบเหมือนเพื่อนที่สนิทก็แอบออกตามหา จนกระทั่งหลงทางไปเจอกับอาณาจักรที่ไม่เคยถูกค้นพบ จนนำพาเธอไปยังอาณาจักรแห่งนั้น.. ย้อนเวลามาหากเป็นคนปกติก็คงไม่เป็นไร แต่เธอเกิดรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าว่าตัวเธอในร่างนี้กำลังจะตายในอีกสามวัน เธอจะทำเช่นไร รอให้ถึงวันตายเพื่อได้กลับไป หรือทำทุกทางเพื่อเอาชีวิตใหม่นี้ให้รอด... "ด้วยเลือดแห่งขัตติยาเจ้าครั้งนี้ อาจต้องแลกมาด้วยเลือดเนื้อและความเสียสละ หากแต่ตัวนางเล่าปรารถนาสิ่งใด อำนาจหรือเพียงแค่คนที่นางรักผู้นั้น.." "แม้จะต้องให้เลือกใหม่อีกร้อยครั้ง กระหม่อมก็เลือกที่จะตายแทนพระนาง ข้าไม่ได้ต้องการคนตายแทน แต่ต้องการคนที่ตายไปพร้อมกัน" ตัดตอน อคิราห์จับจูงมือเจ้าหญิงอโณณาลงเรือคิดหมายจักแยกกันหนี แต่มือของเจ้าหญิงกลับไม่ยอมปล่อย “ลงเรือนี้เถอะพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจักล่อพวกมันไปอีกทาง” “เยี่ยงไรข้าก็ไม่ปล่อย หากจักหนีก็หนีด้วยกัน หากจักรอดก็รอดด้วยกัน” เธอจะไม่มีวันปล่อยมือเขาแน่นอน อคิราห์เห็นเช่นนั้นก็หันมองมโนที่รีบผลักเขาลงเรือ “ข้าจักต้านไว้ก่อน” “ไม่ได้เจ้าก็ลงมาด้วย ข้าจักไม่ยอมให้ผู้ใดต้องเสียสละเพราะข้า” มโนหันมองก็คิดว่าไม่ทันแล้วรีบกระโดดลงเรือไปด้วยกันจากนั้นก็พายเรือให้เร็วกว่าคนบนบก คราวนี้เสี่ยงกว่าคราวก่อนเพราะพวกเราล้วนอยู่ในน้ำ ส่วนพวกทหารกลับขี่ม้าวิ่งตามพวกเราอย่างรวดเร็ว โชคดีที่แม่น้ำนี้ใหญ่พอสมควร แถมกระแสน้ำตอนนี้ก็เชียวมาก จนทำให้พวกเราพายเรือโอนเอนไปตามแรงน้ำจนเรือใกล้จักล้ม “ขืนกระแสน้ำเชียวเช่นนี้เกรงว่าจักได้รับอันตราย” อโณณาที่คิดหนีก็ไม่คิดกลับหันหลังไปแล้ว ยามนี้เธอต้องหาวิธีหนีให้รอดจากมือของเจ้าชายเทวกูล แต่ตอนนี้เรือที่เธออยู่นั้นเหมือนรับน้ำหนักสามคนไม่ไหว “มีคนของเรารออยู่ที่ปากอ่าวอย่างไรก็ต้องเร่งมือให้ถึงให้ได้พ่ะย่ะค่ะ เจ้าหญิงโปรดวางพระทัย” สีหน้าอคิราห์นั้นมั่นใจว่าพวกเราจะรอดจากมือของเจ้าชายเทวกูลที่ขี่ม้าวิ่งเลียบตามแม่น้ำมองพวกเราอยู่ตอนนี้ แถมตอนนี้กำลังหยิบธนูขึ้นมาเล็งที่พวกเราอีก “หมอบ” ดรามาโรแมนติกย้อนยุคมิตรภาพ