ข้ามีเมียเป็นท่านแม่ทัพใหญ่

ทุกค่ำคืนฉีหมิงยังคงถูกใช่ร่างกายอย่างหนักหน่วงเพื่อเป็นพ่อพันธุ์ นางทั้งหาสมุนไพรจีนดีๆ มาบำรุงให้ฉีหมิงแข็งแรงเพิ่มพูนกำลังภายในด้วย "สามีข้า ข้าว่าเรามาต่ออีกสักยกดีหรือไม่" เจียวลู่ถามขึ้นในรุ่งสางของวันหนึ่ง นางปลุกเขาขึ้นมาทำลูกตั้งแต่ตะวันยังไม่ขึ้นจนตอนนี้มองไปด้านนอกแดดเริ่มส่องสว่างแล้ว "ข้าไม่มีแรง..." "ข้าทำเองได้" "ไม่! ให้ร่างกายข้าพักบ้าง" "เถอะนะๆ ข้าขอครั้งเดียวเดี๋ยวให้พักแล้วนะสามีของข้า" ฉีหมิงยังไม่ทันที่จะเอ่ยสิ่งใดภรรยาผู้ใจดีมีน้ำใจนักหนาก็ขึ้นคร่อมเขาอีกครั้ง แต่ที่น่าโมโหที่สุดเลยคือร่างกายไม่รักดีกับตอบสนองนางอย่างเต็มใจ .................................................................................................................... "ทำไมทำหน้าเช่นนั้นตั้งแต่ออกมาจากวังหลวงแล้ว หรืออยากจะตามข้าไป ไม่ได้หรอกนะข้างนอกมันอันตรายข้าไม่ให้เจ้าไปเด็ดขาด" "ถึงข้าจะเป็นเพียงบัณฑิตในราชสำนักแต่ข้าก็เป็นบุรุษ แม้จะไม่เก่งกาจและมีวรยุทธ์ดังเช่นเจ้า แต่ก็ไม่ใช่คนที่อ่อนแอให้ภรรยาคอยมาปกป้อง" ฉีหมิงเอ่ยราวกับคนน้อยเนื้อต่ำใจจนเจียวลู่สัมผัสได้จากน้ำเสียง เขาจะรู้ไหมที่แสดงออกมานั้นทำนางใจหวั่นไหวอยากนอนหยอกเย้ากับเขาทั้งวันทั้งคืนไม่ไปไหน ช่างน่าเอ็นดูยิ่งนักสามีของข้า... "เอาเถอะข้าจะรีบไปรีบกลับ เจ้าก็ทำตัวดีๆ รอข้าอยู่ที่นี่อย่าชายตาแลสตรีนางใดเป็นอันขาดเข้าใจไหม" ฉีหมิงไม่ตอบเขาเบือนหน้านี้ไปมองภายนอกรถมาที่กำลังวิ่งผ่านตลาด นางชอบทำราวกับเขาเป็นสตรีจนตอนนี้เขาสับสนไปหมดแล้ว นางจะรู้ไหมว่าที่เขาเป็นเช่นนี้เพราะหวงนางและรักนางมากเพียงใด ยิ่งคิดก็ยิ่งน้อยใจนางจำเขาไม่ได้อีกทั้งยังทำกับเขาราวกับเป็นของเล่นคลายเหงา "ว่าแต่เจ้าว่าบนรถม้านี่ดูเข้าท่าดีไหมสามีของข้า..." "เจ้า!!! " ฉีหมิงนึกเกลียดน้ำเสียงแหบพร่าที่ใช้เรียกคำ สามีของข้า ยิ่งนักเพราะเวลาที่นางเอ่ยเช่นนี้ออกมาคือเวลาที่เขาจะต้องเสียตัวให้นางและก็ขัดขืนนางไม่ได้ด้วย