ทรายซ่อนเหลี่ยม
เมื่อพี่ชายของ ปิ่นปัก พา เชคอิลยาส ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทมาเที่ยวที่บ้าน ความรักต่างฐานันดรจึงเริ่มขึ้น เชคอินยาสมอบแหวนไว้ให้ปิ่นปักพร้อมบอกว่าเมื่อพร้อมจะเป็นชายาเขาให้สวมแหวนวงนี้แล้วเดินทางไปหาเขาที่ฮิลยะฮ์ ทว่าเหตุการณ์กลับพลิกผันเมื่อหญิงสาวถูกกลุ่มคนปริศนาลักพาตัวไปจากสนามบิน ชาฮีน เป็นบุคคลลึกลับที่ทำให้ปิ่นปักทั้งรังเกียจและหวั่นไหวได้อย่างน่าประหลาด เขาลักพาตัวเธอมาด้วยจุดประสงค์ที่ไม่อาจคาดเดาได้และเฝ้าจับตาดูความเคลื่อนไหวของเชคอิลยาสอย่างเงียบๆ เมื่อผู้คนกระหายอำนาจจิตใจคนไม่อาจหยั่งรู้ได้จากรูปลักษณ์ภายนอก ความจริงกับความลวงจึงห่างเพียงเส้นบางๆ ขวางกั้น ปิ่นปักเริ่มสับสนว่าควรเชื่อสิ่งใดระหว่างความรู้สึกตัวเองกับคำพูดของคนรอบข้าง เธอรู้ชัดเพียงอย่างเดียวว่าเมื่อเหตุการณ์ทุกอย่างสิ้นสุด ชีวิตของเธอจะไม่มีวันกลับมาเป็นเหมือนเดิม...อีกต่อไป “คุณรู้ไหมปิ่นเคยเห็นหน้าคุณมาก่อน” “เห็นที่ไหน” ถามอย่างสงสัย นิ้วเรียวสัมผัสนวลแก้มเรื่อแดงด้วยความร้อนของแสงแดดแล้วก้มลงไปใช้ปลายจมูกโด่งสวยของตนสัมผัสคลอเคล้าสูดดมกลิ่นเจือจางของแก้มสาว “ในฝันค่ะ ปิ่นฝันเห็นคุณ ในฝันปิ่นไม่ทราบว่าคุณเป็นใคร แต่รู้ว่าทั้งรักทั้งกลัวตอนที่คุณกอดปิ่น แล้วทราบไหมคะวันนี้ทำไมปิ่นถึงเลือกชุดสีเขียวนี้มาสวม” หล่อนเอียงหน้าเพื่อให้มองสบตาเขาถนัด ชาฮีนส่ายหน้าช้าๆ ปิ่นปักยิ้มเอียงอายก่อนตอบ “ในฝันปิ่นใส่ชุดสีเขียวแบบนี้ แล้วก็เดินมากอดคุณด้านหลังแบบนี้” หล่อนหมุนร่างใหญ่ให้หันหลังมา แล้วกอดซบใบหน้าลงไปสูดกลิ่นกายชายหนุ่มลึกๆ รับรู้ถึงความอบอุ่น ปลอดภัยอย่างประหลาด “ปิ่นปักรักคุณนะคะ คุณอาจจะไม่ใช่รักแรก แต่จะเป็นรักเดียวตลอดไป ฮาบีบีสามีของปิ่นปัก” “โอ ขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณผืนทราย ขอบคุณฮาบิบตี้ เมียรักของชาฮีน”