
หญิงบ้า ณ ทุ่งแดง (เล่ม 3) ตอน อุ่นอวลเหมันต์ ยามท้อผลิบาน

คู่สามีภรรยาที่ดื่มสุราสัญญาเป็นสหายร่วมกราบไหว้ฟ้าดิน ทว่าเมื่อฤดูเหมันต์มาเยือน ลมหนาวพัดกระหน่ำไม่ขาดคืน พวกเขามีเพียงผ้าห่มผืนเดียวให้แบ่งปัน ใต้ผ้าห่มอุ่นผืนนั้น อะไรที่เคยสงบกลับร้อนรุ่ม นอกบ้านหิมะโปรยปราย แต่ภายในห้องนอนกลับอบอุ่นจนดอกท้อผลิบาน เอ้อร์กัวจะคุมสติได้อีกกี่คืน.. **** เขาพยายามห้ามใจตัวเองไม่ให้คิดมาก เพราะลิลี่ไม่ใช่สตรีคิดซับซ้อน เขารู้ว่านางนอนกอดเขาก็เพราะนางหนาว และเขาก็มักจะตัวอุ่นกว่านางเสมอ แต่อย่างไรเขาก็ยังเป็นบุรุษ ไม่รู้ว่าเขาจะอดทนกับสภาพเช่นนี้ได้อีกนานเพียงใด เขาคำนวณแล้ว อย่างน้อยหิมะและฤดูเหมันต์ยังคงต้องดำเนินต่อไปอีกประมาณสามสิบกว่าวันถึงจะสิ้นสุด เขาไม่รู้ว่าจะทนสูดดมกลิ่นหอมของนางได้นานเพียงใด ก่อนที่สติจะขาดหายไป "เสร็จแล้วหรือ" ลิลี่ลุกขึ้นมาจากเตียง เดินมาในฝั่งของห้องครัว ในมือยังคงตำราอยู่ "..เส..เสร็จแล้ว" เขารีบซ่อนปลายนิ้วที่มีกลิ่นหอมไว้ด้านหลัง เขาก็ไม่รู้เช่นกันว่าเหตุใดต้องทำเช่นนั้น "ไหนลองดูสิ" ลิลี่วางตำราลงบนชั้นวาง เอื้อมมือไปปาดครีมทาผิวมาลูบไล้หลังมือของนางแผ่วเบา "..." เอ้อร์กัวมองฝ่ามือเล็กที่กำลังลูบไล้ตัวเอง เขารู้สึกว่าคอแห้งจนต้องลอบกลืนน้ำลาย "ใช้ได้เลย.." นางยิ้มพึงพอใจเมื่อผิวที่แห้งตึงรู้สึกชุ่มชื่นขึ้นทันที ทั้งยังมีกลิ่นหอมแตงกวาที่นางชอบมากด้วย "อืม..ดีแล้ว" เขามองลงพื้น พยายามหายใจเข้าลึกๆ "ต่อไป ทุกครั้งหลังอาบน้ำ หรือล้างหน้า เจ้าต้องทาสิ่งนี้ให้ทั่วผิวของเจ้า เข้าใจหรือไม่" "ฮะ..ข้าหรือ ข้านึกว่า..เจ้าทำไว้ใช้เอง ข้า.." "เจ้าก็ต้องใช้เช่นกัน หากหมดแล้วค่อยทำใหม่ แต่จะปล่อยให้แก้มแตกผิวแห้งไม่ได้เด็ดขาด" นางปาดครีมทาผิวลงบนฝ่ามือ จากนั้นก็เอื้อมมือไปลูบไล้แก้มของเอ้อร์กัว "!!.." บุรุษตัวสูงแข็งทื่อตกใจ เขาคล้ายลืมหายใจไปชั่วขณะ จากนั้นก็ค่อยๆ โน้มเอียงลงมาหาสัมผัสของนาง ปล่อยให้ภรรยาลูบไล้ แม้แก้มของเขาจะร้อนผ่าวและเนียนนุ่มขึ้น แต่ทั้งหมดที่เขาจำได้คือมือเล็กและกลิ่นหอมแตงกวาอ่อนๆ ****