ภรรยาห้าอีแปะ เล่ม 1 (3 เล่มจบ)

ชีวิตเฉินเซียงหรงวุ่นวาย ถูกจวิ้นหวังจ๋างจื่อตามติด --ตอนเด็ก-- "ในที่สุดก็ได้พบหน้ากันจนได้...น้องสาวตัวน้อย..." เซียงหรงงุนงง ได้แต่กะพริบตาปริบๆ เอ๊ะ เดี๋ยวนะ... จู่ๆ เซียงหรงก็เกิดนึกเรื่องสำคัญขึ้นได้ ไม่ใช่ว่าท่านลุงจวิ้นหวังของนางคิดหมั้นหมายนางให้บุตรชายเพียงคนเดียว...ซึ่งก็คือพี่ชายจวิ้นหวังจ๋างจื่อท่านนี้หรอกหรือ? อั๋ยหยา! "ข้าไม่แต่งให้ท่านนะ!!!" "..." "เอ่อ...คือ...คือว่าข้า..." เซียงหรงอยากจะแก้ไขสถานการณ์ แต่ไม่รู้ว่าสมควรแก้ไขอย่างไรดีแล้ว ก็...ก็นางไม่อยากแต่งให้คนผู้นี้จริงๆ นี่นา! ไม่ใช่แค่กับคนผู้นี้ กับผู้ใดนางก็ไม่แต่งทั้งนั้น! หลี่จือหลินเห็นท่าทางของนางและสายตาคนรอบข้างแล้ว ก็แย้มรอยยิ้มที่ไม่พาดผ่านไปถึงดวงตา กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ "ของหมั้นก็รับไปแล้ว จะไม่แต่งให้ข้าได้อย่างไร" เอ๋!!! ของหมั้น? นางไปรับของพรรค์นั้นมาตั้งแต่เมื่อใด??? หลี่จือหลินลดสายตาลงมองถังหูลู่ในมือนาง เสี่ยวเซียงหรงเห็นสายตาเขาแล้วก็มองตาม นะ นี่มัน หรือ...หรือว่า... "ต่อให้เจ้าโยนทิ้งลงพื้น ก็ถือว่าเจ้ารับของจากข้าไปแล้ว" หลี่จือหลินชิงดักคอ "ข้าจะคืนให้ท่านต่างหาก!" หลี่จือหลินหรี่ตามองถังหูลู่ในมือนาง เอ่ยเสียงขุ่น "เมื่อครู่เจ้าชิมไปหน่อยนึงแล้วด้วยซ้ำ" !!! เขารู้ได้อย่างไร! ข้ายังไม่ได้กัดสักคำเลยนะ! --ตอนโต-- "ไม่พบกันเสียนาน ว่าที่ภรรยาตัวน้อยของข้า เติบโตขึ้นเป็นหญิงงามขนาดนี้เชียวหรือ" เซียงหรงแทบล้มทั้งยืน ใบหน้าของนางซีดขาวในขณะที่ดวงตาเบิกกว้าง นางจำรอยยิ้มมุมปากและแววตาที่ยียวนของเขาได้ในทันที นางแทบจะกรีดร้องในใจ เป็นเขา เป็นเขาจริงๆ! เสียงซุบซิบในลานดังขึ้นอีกครั้ง หลายคนเริ่มจับกลุ่มสนทนากันอย่างตื่นเต้น บ้างกล่าวชื่นชมว่าโชคชะตาของนางช่างดีเหลือเกิน บ้างกลับตื่นตะลึงที่จู่ ๆ ทายาทแห่งตำหนักจวิ้นหวังทิศบูรพาผู้ลือชื่อว่าเป็นชายหนุ่มผู้กล้าหาญและทรงเสน่ห์กลับป่าวประกาศเช่นนี้ต่อหน้าทุกคน เซียงหรงแทบอยากหายตัวหนีไปจากลานในทันที แต่เมื่อเหลือบมองไปยังหลี่จือหลินซึ่งยืนมั่นคงอยู่ข้างกาย เห็นใบหน้าของเขามีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ชัดเจน ก็ได้แต่กัดฟันและคร่ำครวญในใจ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน! ข้าจะทำอย่างไรกับคนผู้นี้ดี! พี่ชาย หายไปจากชีวิตนางถึงเจ็ดแปดปี ได้ข่าวว่าไปได้ดีในทางทหาร กลายเป็นแม่ทัพรักษาชายแดน แต่กลับมีภาระติดพันไม่ได้กลับเมืองหลวงแม้แต่ครั้งเดียวเพราะต้าเว่ยที่บ้าสงครามหาโอกาสโจมตีอยู่ตลอด จนนางลืมไปแล้วว่าเคยมีเรื่องหมั้นหมายด้วยถังหูลู่ห้าอีแปะ เรื่องบ้าเช่นนี้ เขากลับยังไม่ลืม! เสียงฮือฮายังคงอื้ออึงในลานประลอง ทว่าในใจของเซียงหรงกลับเหมือนคลื่นน้ำที่ถาโถมเข้าหาฝั่งไม่หยุด นางรู้สึกหน้ามืดวูบ ตั้งแต่หลี่จือหลินก้าวออกมาประกาศอย่างเต็มเสียง ว่านางเป็นคู่หมั้นของเขา เซียงหรงพลันหายใจไม่ทั่วท้อง หัวใจเต้นรัวอย่างตื่นตระหนก ภาพตรงหน้าของนางเหลือเพียงม่านหมอกสีดำ ร่างอ้อนแอ้นบอบบางทรุดฮวบไปในทันที ซู่ซินรีบเข้าไปประคองพลางร้องลั่น "คุณหนู! คุณหนูเป็นอะไรไปเจ้าคะ!" หลี่จือหลินที่ยืนอยู่ไม่ไกลใบหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม เขาก้าวพรวดพราดเข้าไปหา หญิงคู่หมั้น ย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองร่างน้อยด้วยความรวดเร็ว กวาดมือออกเป็นเชิงบอกให้ซู่ซินหลบไป "หรงเอ๋อร์!" เสียงทุ้มต่ำเรียกนางอย่างอ่อนโยน กดจุดบนฝ่ามือนางด้วยแรงที่พอเหมาะ เซียงหรงค่อยๆ ได้สติคืนมา เมื่อเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยอยู่ใกล้แค่เอื้อม หัวใจก็พลันเต้นระรัวขึ้นมาอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะหวั่นไหว แต่เพราะความตื่นตระหนกที่ประดังประเดเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง ถังหูลู่ห้าอีแปะ! สัญญาน่าหัวร่อในวัยเด็กนั่น... เซียงหรงคิดอย่างสิ้นหวัง ตำหนักจวิ้นหวังที่ไหนเลยจะอดอยากยากไร้ เหตุใดคนผู้นี้ถึงได้ยึดติดกับเงินห้าอีแปะถึงเพียงนี้! เมื่อเห็นเซียงหรงฟื้นขึ้นมา สีหน้าของหลี่จือหลินก็ผ่อนคลายลงทันที เขาหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะหันไปกล่าวต่อหน้าฝูงชนด้วยน้ำเสียงกลั้วขำ "ดูสิ ว่าที่ภรรยาของกระหม่อมช่างน่ารักน่าเอ็นดูเสียจริง เพียงพบหน้ากระหม่อมก็ถึงกับดีใจจนประคองสติเอาไว้ไม่อยู่!" เสียงหัวเราะของผู้คนรอบข้างดังขึ้นประปราย ขณะที่หวงโฮ่วซึ่งทอดพระเนตรอยู่ต้องพยายามฝืนแย้มสรวล พระนางทรงรู้ดีว่าที่คุณหนูสาม จวนเฉินกั๋วกงหมดสตินั้นหาใช่เพราะความดีใจ แต่เป็นเพราะตกใจมากกว่า "พวกเจ้าหนุ่มสาวช่างรักใคร่ผูกพันกันมากจริงๆ" หวงโฮ่วตรัสด้วยน้ำเสียงที่เก็บซ่อนอารมณ์ฝืดเฝื่อนเอาไว้อย่างเต็มที่ จวิ้นหวังจ๋างจื่อผู้นี้! ช่างหน้าหนายิ่งนัก! หลี่จือหลินยิ้มกว้างขึ้น พลางกล่าวต่อไปด้วยน้ำเสียงจริงจัง "พ่ะย่ะค่ะ พวกเราผูกพันกันมาตั้งแต่ยังเยาว์ หมั้นหมายกันตั้งแต่อายุยังน้อย สายสัมพันธ์ระหว่างเราสองคน แน่นแฟ้นมากจริงๆ!" --ตอนโตขึ้นมาอีกเล็กน้อย-- "หรงเอ๋อร์ พัดนี้เหมาะกับเจ้า นำไปใช้ในยามหน้าร้อนเถิด" เซียงหรงมองพัดงาช้างลายดอกเหมยด้วยแววตาคลางแคลงใจ แต่ก็เอื้อมมือรับเอาไว้ "วันนี้ข้าก็ข้ารับเอาไว้แล้ว ท่านกลับไปได้แล้วเจ้าค่ะ!" "ให้ของเจ้ามาตั้งหลายอย่าง แต่ข้ายังไม่ได้สิ่งใดตอบแทนเลย ช่างน่าน้อยใจยิ่งนัก" คนน้อยใจทำท่าทางหงอยเหงา แต่แล้วกลับเอนตัวเข้าใกล้จนนางแทบจะสัมผัสถึงลมหายใจของเขาแล้ว "ของสำคัญก็ยังไม่ได้ทวงเลยด้วยซ้ำ" "ของสำคัญอะไร?" นางขมวดคิ้ว ถอยหลังจนแผ่นหลังชนเสาศาลา "ห้าอีแปะที่เจ้าสัญญากับข้าไว้ยังไงเล่า" อีกแล้วหรือ เซียงหรงกลอกตา "นั่นมันแค่เรื่องหลอกเด็กเท่านั้น ท่านพ่อก็บอกแล้วว่าท่านน่ะ หลอก ลวง ข้า" นางพยายามหลบเลี่ยงสายตาที่มองมาด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ "สำหรับข้า มันสำคัญมาก..." หลี่จือหลินยืนยัน "ถ้าเจ้าไม่อยากคืนด้วยเงิน เจ้าจะคืนด้วยวิธีอื่นก็ได้นะ" "วิธีอะไร" หลี่จือหลินพลันชี้นิ้วไปที่ปาก "หลี่จือหลิน! ไร้ยางอายที่สุด!" เซียงหรงหน้าแดงก่ำ ดันตัวเขาออกห่าง พยายามไม่นึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันที่จวนเฉินกั๋วกงรับมอบสินสอดจากตำหนักจวิ้นหวัง แต่เขากลับฉวยโอกาสเอื้อมมือมาจับมือนางไว้แน่น ----------- *หมายเหตุ* จวิ้นหวังจ๋างจื่อ = ทายาทผู้สืบทอดของจวิ้นหวังเถี่ยเม่าจื่อ ที่สามารถส่งต่อตำแหน่งจวิ้นหวังให้ทายาทได้อีกรุ่นค่า *เรื่องนี้อาจจะมีศัพท์ที่ไม่คุ้นอย่างพวกตำแหน่งเฉพาะอยู่บ้าง แต่ในเล่มจะมีเชิงอรรถอธิบายเอาไว้ให้เหมือนเคยเลยค่ะ*