ผูกวาสนา อาลักษณ์หลวง

แรกเริ่มเป็นเขาที่รู้สึกว่าการแต่งงานนั้นไร้สาระอีกทั้งยังห่างไกลจากตัวเขายิ่งนัก ฉู่ฮั่นเหลียนคิดเสมอว่า สตรีนั้นไหนเลยจะน่าสนใจไปกว่าตำราและตัวอักษรที่ล้ำค่า แต่เมื่อใดก็สุดรู้ เขากลับรู้สึกว่าฟางจื้อหนิง...สตรีผู้ฉลาดเฉลียวทว่าสงบเงียบเรียบร้อยกลับน่าสนใจกว่ายิ่งนัก แล้วจะทำเช่นไรเล่า เมื่อเขาทำทุกวิธีให้ได้แต่งงานกับนาง ส่วนนางก็ทำทุกวิธีเพื่อหลบเลี่ยงการแต่งงานกับเขา ..................... “ไยจึงจะจัดพิธีมงคลเสียในเร็ววันมิได้เล่า” ฉู่ฮั่นเหลียนอดจะสงสัยไม่ได้ รู้เช่นนี้ วันที่ท่านแม่จะให้นางมาเป็นสาวใช้อุ่นเตียง เขาน่าจะรับไว้ บัดนี้ไม่แต่งให้เขานางก็ไม่สามารถแต่งให้ผู้ใดได้อีกแล้ว ฉู่ฮั่นเหลียนหรี่ตา มองจนหญิงสาวรู้สึกราวเหยื่อที่จะถูกล่า จึงทำใจดีสู้เสือ “เอาล่ะๆ ดึกมากแล้ว ท่านพักสักหน่อยเถิด ข้าเองก็จะกลับห้องเช่นกัน” ฟางจื้อหนิงลุกขึ้นยืนและจะขอตัวกลับห้อง ทว่าปลายเท้าเล็กๆ ยังมิทันได้ก้าวออกจากเก้าอี้ก็รู้สึกตัวลอยวูบขึ้นจากพื้น...นางถูกจับไปนั่งอยู่บนหน้าตักแกร่งเป็นที่เรียบร้อย “ท่าน!” เสียงหวานดังราวตื่นตระหนก “ข้าควรทำเช่นไรกับเจ้าดีหนอหนิงเอ๋อร์” น้ำเสียงของฉู่ฮั่นเหลียนราบเรียบ แฝงไว้ด้วยแววคุกคามอย่างที่ไม่ยินยอมให้หญิงสาวรอดพ้นไปได้ ฟางจื้อหนิงรู้สึกทำตัวไม่ถูกอยู่บ้าง ไฉนบุรุษที่แสนเงียบขรึมต่อหน้าผู้คนทั่วไปจึงได้มีมุมอารมณ์อ่อนไหวเพียงนี้ “ทะ...ท่าน...ท่าน...”