นางโลมพรหมจรรย์
จางลี่นั่งสงบเสงี่ยมอยู่บนเตียงในห้องพักรับรองแขก นางกุมมือเข้าหากันแน่น หัวใจเต้นระทึก สมองกำลังครุ่นคิดเพื่อหาทางเอาตัวรอด จะทำเยี่ยงไรดีจางลี่ นางถามตัวเองในใจ สติสั่งให้นางยังนั่งสงบเงียบเอาไว้ให้มากที่สุด นึกย้อนไปถึงก่อนหน้านั้น ก่อนที่นางจะถูกหลอกมาขายหอนางโลม นางเป็นลูกคุณหนูผู้สูงศักดิ์ มีฐานะ ชาติตระกูลที่ดี ถ้าหากบิดาไม่เสียชีวิต และมารดาเลี้ยงคิดร้าย นางคงได้แต่งงานกับคู่หมายและออกเรือนไปแล้ว แม้จะไม่ได้เจอคู่หมั้นของตัวเองนานแล้ว แต่จำได้ว่าตอนเด็ก ๆ เคยเจอกัน ก้งเยว่เป็นคู่หมั้นที่น่ารัก ปกป้องและดูแลเธอตั้งแต่เด็ก เสียงประตูห้องที่เปิดเข้ามากระชากเอาความคิดมากมายในหัวของจางลี่ออกไป นางไม่กล้าเงยหน้ามองคนที่กำลังเดินเข้ามาในห้องพัก แต่ร่างสูงที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าต่างก็ทำให้นางต้องเงยหน้ามอง เขาไม่เห็นดวงหน้าของนางเพราะมีผ้าปกปิดเอาไว้ แต่นางสามารถมองผ่านเนื้อผ้าบางเบาไปเห็นเขาได้ เขาหันมามอง นั่นทำให้จางลี่ได้เห็นใบหน้าหล่อเหลาของแขกคนแรกของเธอได้อย่างชัดเจน นั่นทำให้ดวงตาของนางเบิกกว้าง ตั้งแต่โดนหลอกมาขาย นางก็ไม่เคยโวยวายให้ตัวเองต้องเจ็บตัว แต่พยายามเอาตัวรอดแกล้งป่วยมาหลายวันจนวันนี้ต้องรับแขก แม่เล้าคนงามนามว่าอ้ายเหม่ยมีวิธีการพูดจาที่โน้มน้าวให้นางขายตัว แต่จางลี่ไม่ได้คล้อยตาม แกล้งทำเป็นเออออไปแบบนั้นเอง “พระจันทร์คืนนี้สวย” เสียงทุ้มที่ดังขึ้นทำให้จางลี่ขยับตัวเล็กน้อย พิศมองใบหน้าของหนุ่มรูปงามอีกครั้ง ชายหนุ่มตรงหน้ามีใบหน้าสวยยิ่งกว่าอิสสตรีเสียอีก หากว่าเขาแต่งเป็นหญิงน่าจะงามกว่าหญิงเสียอีก “เจ้ามีชื่อเสียงเรียงนามว่ากระไร” ก้งเยว่เอ่ยถาม โบกพัดในมือไปมาพร้อมด้วยรอยยิ้ม ท่าทางของเขาเป็นคุณชายสูงศักดิ์ และไม่ได้มีอาการกระเหี้ยนกระหืออยากจะเที่ยวหอนางโลมเหมือนชายอื่นที่เคยเห็น เข้ามาในห้องก็เอาแต่มองพระจันทร์ เดินไปเดินมาแล้วก็ชวนคุยอย่างเป็นกันเอง อารมณ์ของเขาดูสุนทรีย์เหลือเกิน