เรื่องเล่ากึ่งบันทึกประสบการณ์ในชีวิตของผู้เขียน ที่ได้มีโอกาสไปใช้ชีวิตช่วงหนึ่งบนเกาะเล็ก ๆ ในมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งก็คือ เกาะอังกฤษ ผ่านมุมมองของ "มิลินทร์" นักเรียนทุนชาวไทยคนหนึ่ง

เขาพันธนาการเธอไว้ด้วยสายใยแห่งปรารถนา

ความรักที่ค่อย ๆ ผลิบานเหมือนดวงอาทิตย์ทอแสงยามใกล้รุ่ง

ความรักของเธอเปรียบประดุจเงาที่ซ่อนเร้นอยู่ส่วนลึกในใจเขา

เกียรติยศจะมีมากล้นเพียงใด ก็ถูกตีราคาซื้อขายได้ด้วยเงิน ไม่เว้นแม้กระทั่ง "ศักดิ์ศรีของความเป็นคน"

"จำน้ารุตไม่ได้หรือ...หนูพุก"

แค่เอ่ยปากเสนอเงินห้าล้านบาทเพื่อแลกกับการเลิกยุ่งเกี่ยวกับคู่หมั้นของน้องสาวเขา...ผู้หญิงหิวเงินคนนี้ก็รีบตะครุบทันที

เพราะเธอคือหนึ่งเดียวในหัวใจ

พลันที่สัมผัสถึงกลิ่นอายของเธอ ก็รู้ได้ทันทีว่าเธอคือคนที่เขาเฝ้ารอคอยมานานแสนนาน

เขามาจากตระกูลต้องสาปผู้ตกอยู่ใต้อำนาจของพระจันทร์ เธอที่มีสายเลือดผู้เยียวยาเท่านั้นที่จะปลดปล่อยเขาจากพันธนาการนี้ได้

เพราะความผิดพลาดของคนเป็นพ่อ ทำให้เธอต้องหาทางแก้ไขด้วยการยอมเป็นเบี้ยล่างของเขา แม้จะต้องแลกด้วยตัวและหัวใจ ก็เพื่อรักษาโรงบ่มไวน์ที่เป็นอนุสรณ์แห่งความรักของพ่อกับแม่ไว้

คนตัวสูงใหญ่ราวกับยักษ์ปักหลั่นสมชื่อเดินจูงมือคนตัวเล็กกว่าไปข้างหน้า พร้อมคำสัญญาที่ให้ไว้ว่า "จะดูแลน้องอ้อตลอดไป" อาจเป็นประโยคที่ฟังดูเชย หากแต่มินตรากลับเชื่อมั่นอย่างสุดหัวใจ

นภมนต์ไม่เคยเชื่อเรื่องพรหมลิขิต แต่การเดินทางไกลครั้งนี้ ดูเหมือนจะพบเจอแต่เรื่องประหลาด เอ๊ะ! แล้วคนตัวสูงเจ้าของดวงตาสีน้ำเงินเข้มนี่เป็นคนจริง ๆ หรือเลพรีคอนแปลงกายมากันแน่นะ?

กลีบดอกไม้ที่โปรยปรายลงสู่พื้นดินราวกับปูพรม พระจันทร์ข้างขึ้นยิ่งขับสีแดงฉานให้กระจ่างชัด แต่ที่โดดเด่นที่สุดกลับเป็นสีแดงสดที่สาดกระเซ็นทั่วร่างสีขาวที่นอนแน่นิ่งไม่ไหวติงท่ามกลางพรมดอกไม้นั่น

ไม่นึกเลยว่าเจ้าของฉายา "เพลย์บอยระดับชาติ" อย่างเขา จะต้องมาวิ่งไล่ตามยายเด็กแสบหน้าตาบ้าน ๆ คนหนึ่งราวกับคนบ้า ทั้งที่มีดาราฮอลลีวู้ดสาวสวยระดับ A-List อิงแอบแนบกายอยู่แท้ ๆ