หนึ่งมิถุนา

เมื่อหลายปีก่อนเธอเคยมี'คนคุย'เหมือนคนอื่นเขาแต่สุดท้ายก็แยกย้ายกันไปเติบโต เธอเติบโตเป็นหมอส่วนเขาเติบโตไปเป็นหน่วยรบพิเศษเจอกันอีกครั้งนึกว่าจะลืมกันแล้วถ้าเขาไม่ทักคำว่า'ไปกินข้าวหลายปีเลยนะ'ซะก่อน

เธอรู้จักเขาจากฉายา'พี่น่านฮอตเนิร์ด'ส่วนเขารู้จักเธอจากฉายา'เด็กเสี่ย'เขาดูถูกหาว่าเธอจงใจเข้าหาจนเธอตอกหน้าไปว่า"อย่างคุณดูก็รู้ว่าไม่แซ่บ"และจากมาแบบเชิดๆ ใครจะรู้ว่าวันหนึ่งเธอต้องมาเป็นเลขาให้เขา

ใครๆ ก็บอกว่าเขาเป็นหมอที่ชอบเลี้ยงไข้เธอ ในเมื่อรู้มาตลอดว่าเธอรักแต่ก็ไม่เคยสนใจ พอกำลังจะตัดใจเขาก็เข้าหา นี่มันเลี้ยงไข้กันชัดๆ

คืนนั้นเธอกับเขาตกลงจะไปต่อด้วยกัน แต่พอได้มาเจอกันอีกครั้งเขากลับปฎิเสธไม่ขอสานสัมพันธ์ เพราะเธอดันเป็นคนใกล้ตัว คนหนึ่งวิ่งไล่ตามอีกคนคอยวิ่งหนี แต่จะให้ทำยังไงก็เธอล็อคเป้าไว้แล้วว่าอยากได้หมอคนนี้

เพราะความเข้าใจผิดในอดีตที่ทำให้เขามองเธอเปลี่ยนไป ถึงแม้เธอจะมีโอกาสเป็นถึงคู่หมั้นเขา แต่ก็เป็นเพียงแค่ในนาม เพราะประโยคที่เขาย้ำกับเธออยู่เสมอคือ 'ห้ามรัก' และไม่ว่ายังไงเขาก็จะ 'ไม่มีวันรักเธอ'

‘ฉันเป็นเด็กของคุณลม’ นี่คือประโยคที่เธอพูดเพื่อเอาตัวรอด แต่ใครจะไปคิดว่ามันจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองทีหลัง เมื่อเจ้าของชื่อดันเข้าใจผิด คิดว่าเธออยากจะทำหน้าที่เป็นเด็กของเขาจริงๆ

ตอนนั้นที่เธอขอเราเป็นแฟนเราให้เธอไม่ได้…แต่ตอนนี้เราพร้อมแล้วแต่เธอกลับไม่เอา ไม่เป็นไรเราแค่ขอลองจีบเธออีกสักครั้ง

ปกติพระเอกกับนางเอกมันก็ได้กันแบบนี้เมื่อใครสักคนโดนวางยาปลุกเซ็กซ์! คืนนั้นเธอจึงปล่อยให้เขากินยานั่นเพื่อหวังขยับความสัมพันธ์ รักเขามาตั้งหลายปีก็ขอใช้วิธีนี้แหละในเมื่อที่ผ่านมาจะทำยังไงเขาก็ไม่รัก

เธอมีโอกาสได้กลับมาเจอรุ่นพี่ที่เคยแอบปลิ้มเมื่อเจ็ดปีก่อนในฐานะเจ้านายกับลูกน้อง 'หวังว่าจะไม่คิดอะไรโง่ๆ แบบนั้นอีก' คือสิ่งที่เขาย้ำเตือนกับเธออยู่เสมอ

หนึ่งมิถุนา ติดตาม "คืนนั้นเราได้กันใช่ไหม?" นี่คือประโยคแรกที่เขาถามเธอหลังจากไม่ได้เจอกันถึงห้าปี ภายนอกที่ดูสุขุม ใจเย็น อ่อนโยน ที่คนอื่นเห็น เธอรู้ดีที่สุดว่ามันแค่ภาพลวงตา คืนนั้นต่างหากที่เ

มันเป็นข้อตกลงที่คุยกันตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าการแต่งงานครั้งนี้เป็นเพียงผลประโยชน์ร่วมกันเท่านั้นแต่ใครจะไปคิดว่าเธอจะเกิดใจเต้นแรงกับคุณหมอหน้านิ่งที่เป็นสามีตัวเอง ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าเขาไม่รัก