
ดั่งโซ่ทอง คล้องความรัก (The Best Thing You Gave)

พ่อของลูกกลับมาชิดใกล้พร้อมทำตัวราวกับเป็นพ่องูจงอางหวงไข่ อีกทั้งปากแข็งหนักหนาว่า 'ไม่ได้รัก' แม้เขารู้ว่าอีกฝ่ายรู้สึกอย่างไรตลอด 6 ปีเต็มที่ผ่าน ทว่ายังคงวางสถานะของเธอเป็นเพียงแม่ของลูก คนที่ใกล้ชิดเพียงตัวแต่ไม่เคยใกล้หัวใจ แต่จะหักห้ามหัวใจตัวเองอย่างไรเมื่อลูกสาวตัวน้อยของเรารับบทเป็นแม่สื่อแม่ชัก ท่ามการหนุนหลังจากคุณย่าของหลานเพื่อช่วยโน้มน้าวให้สองหัวใจได้ลงเอยกันดีๆ เสียที... --------------------------------------------- "ทำไมพ่อกับแม่ถึงต้องอยู่บ้านคนละหลังด้วยละคะ" ฉันขบริมฝีปาก ขณะที่เหนือเอาแต่ยิ้มพลางใช้หัวนิ้วโป้งมือแตะริมฝีปากอย่างจนตรอก เราถูกลูกสาวคนเก่งซักไซ้ซักเสียจนสะอาดตั้งแต่ 1 ชั่วโมงที่แล้ว วกไปเวียนมาในหลายคำถาม แต่มี 2 ประเด็นสำคัญคือ ทำไมพ่อกับไม่อยู่บ้านเดียวกันเหมือนพ่อแม่ของคนอื่นๆ กับประเด็นที่สองเมื่อไหร่หนูจะมีน้องเป็นเพื่อนเหมือนเพื่อนๆ บ้าง ช่วงแรกเราผลัดกันตอบโดยใช้เหตุผลเป็นกลาง แต่คำตอบนั้นก็ยังไม่ถูกใจแกอยู่ดี จึงเริ่มตั้งคำถามใหม่อีกครั้ง เช่น "หนูก็ต้องมีน้องใช่ไหมคะ เพื่อนหนูทั้งมีบุญ จินนี่ ออเดรย์ก็มีพี่น้องหมดเลย" เธอยกตัวอย่างเพื่อนร่วมชั้นอนุบาลที่มีพี่น้องให้ฟังเป็นหนที่สอง "ใช่จ้ะ แต่คนทุกคนไม่จำเป็นต้องมีพี่น้องเหมือนๆ กันหมดหรอกนะ น้องจันทร์เจ้าเป็นเด็กโชคดีมากที่เป็นลูกคนเดียว พ่อกับแม่สามารถให้ความรักกับหนูได้คนเดียวแบบเต็มที่ไม่ต้องเผื่อใครเลยไงจ๊ะ" ฉันอธิบาย แต่พยักหน้าหงึกๆ เหมือนจะเข้าใจโดยดี แต่ "แต่คุณปู่คุณย่าบอกว่าน้องจันทร์เจ้าควรรู้จักแบ่งปันเผื่อแผ่ให้คนอื่นนี่คะ งั้นหนูก็สามารถแบ่งความรักของพ่อกับแม่ให้น้องได้เหมือนกัน" "แต่ว่าพ่อกับแม่รักน้องจันทร์เจ้ามากๆ จนแบ่งความรักให้ใครอีกไม่ได้เลยไงครับ เราก็เลยมีน้องจันทร์เจ้าแค่คนเดียว" เหนืออธิบายบ้างพลางใช้นิ้วจิ้มพุงแกเล่นระหว่างพูด "ไม่เอาอ่ะ ยังไงหนูก็อยากมีน้อง" แกอมลมไว้ในแก้ม ทำแก้มสีชมพูปลั่งพองออกอย่างน่ารัก พลางเม้มริมฝีปากแดงตามธรรมชาติ แล้วสั่นหน้าแรงๆ ทำผมสีน้ำตาลเส้นบางสลวยปัดใบหน้าแสดงอาการไม่พอใจหลังคาดคั้นเรากว่าหนึ่งชั่วโมงเต็มคำตอบที่ได้ก็คือเราจะ ไม่มีน้องเพิ่ม