ดุจห้วงทิวาวาร

ใจหนอใจ ไยจึงขบถต่อผู้เป็นเจ้าของ ควรชิงชังกลับแสนรัก ยามได้ยลรักกลับเหลือเพียงรอยสลักมั่น..ดุจห้วงทิวาวาร สายลมพัดโชยมาเอื่อยๆ ให้ได้กลิ่นดอกจำปาในมือ แววตาที่บุรุษจับจ้องแม่หญิงตรงหน้านั้นพราวระยับเล่นเอาเจ้าหล่อนถึงกับแสร้งหลบตาหันไปมองซุ้มดอกไม้ข้างเรือนแทน ปกติมือของนักรบนั้นคุ้นชินกับการถือดาบหากแต่เพลานี้มือคู่นั้นกลับประคองจำปาดอกน้อยเอาไว้อย่างทะนุถนอม พลันวงแก้มนวลซับสีชมพูระเรื่อราวกับจะหยอกเย้าให้คนมองต้องยกยิ้มบางๆ อย่างพึงใจ ขณะคนตัวเล็กยังไม่ทันตั้งตัวอีกฝ่ายจึงชิงขยับกายเข้าไปใกล้ๆ บรรจงปักดอกไม้ลงประดับมวยผมอย่างเบามือ "ข้าให้ หายเจ็บหายไข้ ขวัญมาหนาเจ้า" คำพูดนี้ราวกับกำลังตอกย้ำความทรงจำที่ถูกซุกซ่อนเอาไว้ในห้วงคำนึงให้ค่อยๆ ฉายภาพตอนเขาเคยมอบจำปาดอกแรกคราอยู่อุทยานให้เธอ แววตาแลคำพูดดูออกว่าจริงใจทำให้บัวแก้วเอาแต่ก่นร้องถามตัวเองในใจว่า แท้จริงแล้วเขาควรเป็นคนที่เธอควรเกลียดไม่ใช่หรอกหรือ ไยเพลานี้ใจเจ้ากรรมกลับรู้สึกวาบไหวขึ้นมาพิกล จะปล่อยความรู้สึกเช่นนี้มาครอบงำหัวใจไม่ได้เด็ดขาด! เมื่อรักของชายหญิงต่างเมืองถูกขวางกั้นด้วยกำแพงแห่งทิฐิและม่านแห่งศักดินา จึงนำพาให้ก่อเกิดเป็นตำนานความรักข้ามภพชาติและสัจจะอธิษฐาน เขาคือนายทหารกล้าแห่งกรุงสยาม ส่วนเธอคือเชลยทาสที่เข้ามาเป็นเชลยหัวใจของเขา..ออกขุนรณยุทธสงครามเธอจะเป็นเพียงรักแรก และรักสุดท้ายตราบสิ้นลมหายใจ ความรักระหว่างแม่หญิงเวียงเชียงแก้วและหนุ่มชายสยามจะมีบทสรุปเช่นไรติดตามได้ใน ดุจห้วงทิวาวาร กันนะคะ